สารบัญบทความ
Toggle.
กรดไหลย้อน กินโยเกิร์ตได้ไหม อาจเป็นคำถามที่ผู้ป่วยกรดไหลย้อนหลาย ๆ คนกำลังสงสัยและมีความอยากรู้เป็นอย่างมาก เป็นที่ทราบกันดีว่ากรดไหลย้อนแม้จะดูเป็นโรคที่ไม่มีอาการรุนแรงมากนัก แต่นั่นเป็นเพียงช่วงแรกเท่านั้น ซ้ำร้ายโรคนี้ยังส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้อีกด้วย โดยสิ่งที่จะช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาอึดอัด แน่นท้อง แน่นนอก เช่นนี้ การเลือกรับประทานอาหารเป็นวิธีที่เห็นผลและง่ายมากที่สุด นั่นจึงทำให้คำถามข้างต้นถูกตั้งขึ้นมาโดยผู้ป่วยหลาย ๆ คนนั่นเอง
.
กรดไหลย้อน คืออะไรมีสาเหตุมาจากอะไร และควรระวังอาหารชนิดใดบ้าง?
.
โรคกรดไหลย้อนเป็นภาวะที่น้ำย่อยจากกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหาร โดยของที่ไหลย้อนส่วนใหญ่จะเป็นกรดในกระเพาะอาหาร ส่วนน้อยอาจเป็นด่างจากลำไส้เล็ก โดยอาจมีหรือไม่มีหลอดอาหารอักเสบก็ได้
.
โรคกรดไหลย้อนมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ลักษณะของโรคคือการที่มีกรดไหลย้อนขึ้นจากกระเพาะอาหารมาที่หลอดอาหาร โรคกรดไหลย้อนมักพบได้จากการที่มีการอักเสบของหลอดอาหาร ซึ่งมีผลกระทบได้ในทุกช่วงอายุ โดยวิถีชีวิตในแถบยุโรปพบได้ในผู้ใหญ่ ประมาณ 20 – 40% ซึ่งอาการที่พบเป็นประจำคืออาการแสบร้อนกลางอกนั่นเอง
.
กรดไหลย้อน สาเหตุมาจากอะไรบ้าง?
.
อย่างที่ทราบกันดีว่า โรคกรดไหลย้อนมักพบในผู้ที่ทำงานออฟฟิศ เนื่องมาจากพฤติกรรมการรับประทานอาหาร แต่ไม่เพียงเท่านั้นโรคกรดไหลย้อนสามารถพบได้ในทุกกลุ่มอายุ เป็นโรคใกล้ตัวที่ใคร ๆ ก็เป็นได้ โดยผู้ที่มีพฤติกรรมเหล่านี้ มีความเสี่ยงเป็นกรดไหลย้อน
.
- รับประทานอาหารไม่เป็นเวลา รับประทานแล้วนอนทันที
- ชอบรับประทานผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวเป็นประจำ
- ดื่มสุรา น้ำอัดลม
- สูบบุหรี่
- ผู้หญิงตั้งครรภ์
- มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน หรือโรคอ้วน
- ผู้ป่วยโรคเบาหวาน
- ผู้ป่วยโรคผิวหนังแข็ง
- รับประทานยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันโลหิตสูงบางชนิด ยาแก้โรคซึมเศร้า เป็นต้น
.
กรดไหลย้อน อาการเป็นอย่างไร?
.
อาการของโรคกรดไหลย้อนแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีอาการนอกหลอดอาหาร จะมีอาการเจ็บคอเรื้อรัง ซึ่งหากเจ็บคอเรื้อรังแต่หาสาเหตุไม่พบ ส่วนใหญ่ 70% จะเป็นโรคกรดไหลย้อน ส่วนที่มีอาการในหลอดอาหารจะมีการอักเสบ
.
ผู้ป่วยด้วยโรคกรดไหลย้อนจะมีอาการแสบร้อนกลางอก เรอเปรี้ยว ภาวะนี้อาจทำให้หลอดอาหารอักเสบหรือเป็นมากจนเกิดแผลรุนแรง จนทำให้ปลายหลอดอาหารตีบ หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงเซลล์ของเยื่อบุหลอดอาหารได้ บางรายอาจรุนแรงจนถึงขั้นเป็นมะเร็งหลอดอาหารได้
.
เป็นกรดไหลย้อน อาหารที่เลือกกินมีความสำคัญอย่างไร?
.
จากที่ได้กล่าวมาข้างต้น ว่าสาเหตุของโรคนี้เกิดจากการที่กล้ามเนื้อหูรูดส่วนปลายของหลอดอาหารที่เชื่อมต่อกับกระเพาะอาหารทำงานผิดปกติ หย่อนยาน หรืออาจเสื่อมสภาพ และอีกสาเหตุที่ไม่ควรมองข้ามคือ “นิสัยการรับประทานอาหาร” ของผู้ป่วยนั่นเอง การรับประทานอาหารที่มากเกินไป เช่น การกินบุฟเฟ่ต์ ก็อาจทำให้เกิดโรคนี้ได้เช่นกัน เนื่องจากคนส่วนใหญ่มักจะกินในปริมาณที่มากกว่าปกติ เพื่อให้รู้สึกคุ้มค่า ทำให้กระเพาะขยายตัวมากขึ้น จนเกิดแรงดันสูง จึงมีแนวโน้มที่ทำให้กรดไหลย้อนขึ้นมาได้ ดังนั้นการปรับพฤติกรรมในการเลือกอาหารเพื่อรับประทาน คือสิ่งที่ตอบโจทย์การรักษาและป้องกันที่ดีที่สุด
.
.
โรคกรดไหลย้อน ควรกินอะไร กินแบบไหนจึงจะลดปัญหากรดไหลย้อนได้
กรดไหลย้อนกินอะไรดี? กรดไหลย้อนกินอะไรหาย? มักเป็นคำถามที่ผู้ป่วยหลายคนตระหนัก เพราะกรดไหลย้อนมีปัจจัยหลัก ๆ มาจากพฤติกรรมการกินที่ไม่ถูกต้อง เมื่อตรวจพบโรคกรดไหลย้อน นอกจากการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ การเลือกกินอาหารที่เหมาะสม คืออีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้อาการกรดไหลย้อนน้อยลงได้ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าอาหารที่ผู้ป่วยกรดไหลย้อนควรกินและไม่ควรกินมีอะไรบ้าง?
.
อาหารไขมันต่ำ
.
เช่น เนื้อไม่ติดมัน เนื้อปลา ไก่ ไข่ขาว นมไขมันต่ำ หรือน้ำเต้าหู้ เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีสำหรับผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อน
.
ไขมันดี
.
เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันงา อะโวคาโด น้ำมันดอกทานตะวัน ลดการบริโภคไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ โดยแนะนำให้รับประทานไขมันไม่อิ่มตัวที่ดีต่อสุขภาพเหล่านี้แทน
.
อาหารไฟเบอร์สูง
.
เช่น ข้าวซ้อมมือ ข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี ข้าวโอ๊ต นมข้าวโอ๊ต ธัญพืชต่าง ๆ โฮลวีท โฮลเกรน เนื่องจากเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยกากใยอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยในการขับถ่าย และไม่เพิ่มกรดในกระเพาะอาหาร
.
กรดไหลย้อนห้ามกินอะไร อาหารประเภทไหนที่ควรระวัง
.
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงไม่ควรกินในปริมาณมาก ๆ มี 3 ชนิดด้วยกัน
.
อาหารที่มีไขมันสูง
.
ไม่ว่าจะเป็นของทอดของมันต่าง ๆ รวมไปถึงอาหารที่มีไขมัน เช่น นม เนย ชีส คุกกี้ เป็นต้น เพราะอาหารที่มีไขมันสูงจะใช้เวลาย่อยในกระเพาะนาน เมื่ออยู่ในกระเพาะนาน จึงมีแนวโน้มที่จะเกิดกรดมากขึ้น และไหลย้อนกลับขึ้นมาในหลอดอาหารได้
.
อาหารที่ทำให้เกิดกรดและแก๊สในกระเพาะ
.
เช่น ของหมักดอง อาหารรสเค็มจัด เปรี้ยวจัด รวมถึงอาหารที่ทำจากถั่ว เพราะอาหารกลุ่มนี้จะไปเพิ่มแรงดันในกระเพาะอาหาร อาจส่งผลให้หูรูดมีช่องว่างเปิดออกมา ทำให้น้ำย่อยหรือกรดไหลย้อนขึ้นมา
.
เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูง
.
เช่น ชา กาแฟ ช็อกโกแลต โกโก้ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง เพราะจะไปกระตุ้นให้กรดหลั่งมากขึ้น ทำให้หูรูดปิดตัวผิดปกติได้
.
วิธีแก้กรดไหลย้อน
.
นอกจากการปรับพฤติกรรมการเลือกกินอาหารแล้ว ยังมีวิธีอื่นที่จะใช้ลดอาการที่เกิดจากภาวะไหลย้อนได้ โดยการปฏิบัติดังนี้
.
- รับประทานอาหารในปริมาณครั้งละน้อย ๆ แต่บ่อยขึ้น
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารก่อนเข้านอน 2 – 3 ชั่วโมง
- นอนให้ศีรษะสูง 6 – 8 นิ้ว โดยใช้ท่อนไม้รองพื้นเตียงบริเวณด้านหัวเตียงที่ศีรษะนอนทับ แต่การใช้หมอนหนุนให้สูงขึ้นจะไม่ได้ผลมากนัก เนื่องจากทำให้ลำตัวพับงอ
- หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำอัดลม เครื่องดื่มช็อกโกแลต กาแฟ อาหารที่มีไขมันหรือกรดสูง น้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว
.
หากอาการไม่รุนแรงนัก การออกกำลังกายโดยการบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องจะช่วยให้การบีบรัดของกล้ามเนื้อกระเพาะอาหารทำงานได้ดีขึ้น
.
เป็นโรคกระเพาะ โรคกรดไหลย้อน กินโยเกิร์ตได้ไหม?
สำหรับผู้เป็นโรคกระเพาะ
.
เนื่องจากโยเกิร์ต ทำมาจากการหมักนมด้วยเชื้อจุลินทรีย์ชนิดดี กลุ่มโพรไบโอติกซึ่งเปลี่ยนน้ำตาลนม (แล็กโทส) เป็นกรดแล็กติก ทำให้คนที่ขาดน้ำย่อยสำหรับย่อยน้ำตาลนม กินโยเกิร์ตได้โดยไม่เกิดอาการท้องอืด หรือท้องเสีย ซึ่งเชื้อจุลินทรีย์ชนิดดี จะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อ H.Pylori ซึ่งทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหารอักเสบ แผลกระเพาะอาหาร นอกจากนั้นยังช่วยเพิ่มภูมิต้านทานโรคโดยเฉพาะในคนสูงอายุอีกด้วย
.
โยเกิร์ตสักถ้วยย่อมเป็นประโยชน์สำหรับคนที่เป็นโรคกระเพาะอาหาร หรือแผลในกระเพาะ ดีกว่าการไม่กินอะไรเลย
.
สำหรับผู้เป็นโรคกรดไหลย้อน
.
คำตอบคือ กินได้ เพราะจุลินทรีย์ในโยเกิร์ตไม่ว่าจะชนิดไหน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรคกรดไหลย้อนแต่อย่างใด อีกทั้งยังช่วยปรับความเป็นกรดของน้ำย่อยให้ดีขึ้น และช่วยย่อยอาหารด้วย ดังนั้นจึงสามารถรับประทานได้ตามสะดวก และจุลินทรีย์ในโยเกิร์ตที่ประกอบไปด้วยสารอาหารที่มีคุณค่าอย่างมากจากนม ก็จะยิ่งได้ประโยชน์มากขึ้นไปอีก
.
.
โพรไบโอติกกินตอนไหน จึงจะดีต่อคนเป็นกรดไหลย้อน?
.
กรดไหลย้อนเป็นภาวะที่กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นมายังหลอดอาหาร ซึ่งอาจเกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหาร และพฤติกรรมต่าง ๆ เช่น การรับประทานอาหารปริมาณมาก การเข้านอนทันทีหลังรับประทานอาหาร การดื่มน้ำอัดลมและแอลกอฮอล์ ทำให้มีอาการจุกเสียด แสบร้อนกลางอก และเรอเปรี้ยว
.
การรับประทานโพรไบโอติกอาจช่วยบรรเทาอาการของกรดไหลย้อน สร้างสมดุลของจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร ยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรียชนิดไม่ดี ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคในระบบทางเดินอาหาร และช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดีขึ้น ดังนั้นการกินโพรไบโอติกจึง “ควรกินก่อนอาหาร หรือระหว่างมื้ออาหาร” เพราะในช่วงเวลานั้นกระเพาะจะมีค่าความเป็นกรดต่ำ ทำให้โพรไบโอติกโดนทำลายด้วยน้ำย่อยน้อยลง และลงจอดในลำไส้ใหญ่ได้อย่างปลอดภัยนั้นเอง
.
ท้ายที่สุดปัญหาโรคกรดไหลย้อนขึ้นอยู่กับอาหารที่เรากินและพฤติกรรมการกินที่สำคัญ คือหลังรับประทานอาหารอิ่มแล้ว เช่น หลีกเลี่ยงการนอนราบประมาณ 3 ชั่วโมงหลังกินอาหาร ไม่กินอาหารมัน ๆ รสจัด หรืออาหารที่ย่อยยาก เป็นต้น อาการกรดไหลย้อนก็จะไม่เกิดขึ้นแน่นอน
.
Butterfly Pro Plus Drinking Yogurt จาก Butterfly Organic
.
โยเกิร์ตตัวใหม่จาก จาก Butterfly Organic ที่มีจุดเด่นอย่างมากในเรื่องของจุลินทรีย์จำเป็นจากโยเกิร์ต ซึ่งทำให้ผู้บริโภคได้รับปริมาณของจุลินทรีย์โพรไบโอติกที่สูงขึ้นและครบครันมากขึ้น ซึ่งจุดโดดเด่นดังกล่าว เช่น
.
มีชนิดจุลินทรีย์ที่ดีมากถึง 7 สายพันธ์ุ (เชื้อโพรไบโอติก 5 สายพันธุ์ + เชื้อโยเกิร์ต 2 สายพันธุ์)
.
- Bifidobacterium
- Lactobacillus acidophilus
- Lactobacillus rhamnosus
- Lactobacillus paracasei
- Bacillus coagulans
- Lactobacillus delbrueckii subsp. Bulgaricus
- Streptococcus thermophilus
.
มีปริมาณจุลินทรีย์มีชีวิต 40,000 หมื่นล้านตัวต่อขวด (Live Active Cultures > 40,000 CFU/Bottle) มีทั้ง Probiotic และ Prebiotic ใช้ Inulin Fiber (Fructo oligosaccharide) เป็น Prebiotic
.
ทั้งนี้ Pro Plus เป็นผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตพร้อมดื่มเนื้อสัมผัสนุ่มสมูทที ที่ผสานคุณประโยชน์ ระหว่าง Probiotic + Prebiotic Yogurt กับ Super Fruit มาเป็นผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตพร้อมดื่มที่มีรสชาติกลมกล่อมอย่างลงตัว สามารถหาซื้อได้แล้วที่ร้านค้าชั้นนำทั่วไป หรือสนใจสั่งสินค้าและดูสินค้าเพิ่มเติม สามารถติดตามผ่านไลน์ได้ที่นี่ (คลิก)
.
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
แนะนำให้รับประทานหลังอาหาร เพราะจริง ๆ แล้วโยเกิร์ตจะมีจุลินทรีย์ที่ดีที่ช่วยเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร
ผลไม้ที่ผู้ป่วยกรดไหลย้อนห้ามกินหรือควรเลี่ยงไว้เป็นดี คือกลุ่มผลไม้ที่มีกรดมาก เช่น ส้ม องุ่น มะนาว มะเขือเทศ สับปะรด หรือน้ำผลไม้รสเปรี้ยวจัด รวมไปถึงซอสมะเขือเทศก็ควรเลี่ยงด้วยเช่นกัน
ไม่ควรกิน เพราะอาจทำให้ท้องอืด อึดอัด รบกวนการนอนหลับได้ เช่น อาจทำให้นอนหลับได้ยาก, ตื่นบ่อย, หลับไม่สนิท และเกิดภาวะกรดไหลย้อนได้