สารบัญบทความ
Toggleถ้าพูดถึงอาหารที่มีโปรไบโอติกนั้น เมื่อมีจำนวนอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม บอกเลยว่าสามารถช่วยให้การทำงานของระบบทางเดินอาหาร พร้อมทั้งระบบอื่น ๆ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะจุลินทรีย์ที่ดีเหล่านี้จะเข้าไปช่วยในเรื่องของการดูดซึมสารอาหาร ป้องกันโรค และการรักษาภาวะผิดปกติของร่างกายได้ ดังนั้นพวกเราทุกคนไม่ว่าจะเป็นเพศอะไร หรือวัยไหนก็ยังควรได้รับโปรไบโอติกอย่างเหมาะสม เพื่อให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง
อาหารที่มีโปรไบโอติก คืออะไร มีโปรไบโอติกประเภทไหนบ้าง
สำหรับจุลินทรีย์ดีที่มีอยู่ในอาหารที่มีโปรไบโอติกในตระกูลนี้นั้นความจริงมีหลายสายพันธุ์เป็นอย่างมาก โดยจะมาพร้อมประโยชน์ที่แตกต่างกันไป แต่ในตอนนี้การรับประทานอาหารที่มีโปรไบโอติกส์มักใส่มา 3 ตัวหลัก ๆ ซึ่งหากได้รับในปริมาณที่เหมาะสมก็เพียงพอกับการดูแลร่างกายในชีวิตประจำวันกันแล้ว โดยทั้ง 3 ตัวนี้จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย
1. แลคโตบาซิลลัส
สำหรับโปรไบโอติกตัวนี้เราจะคุ้นเคยกันมากที่สุด เพราะมีส่วนช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายได้มากที่สุด เจอเยอะในพวกนมเปรี้ยว โยเกิร์ต ใครที่มีอาการแพ้นมวัว หรือร่างกายย่อยแลคโตสได้ไม่ดีแนะนำว่าเลือกอาหารที่มีโปรไบโอติกส์ตัวนี้อยู่ถือว่าสามารถทดแทน พร้อมทั้งให้ประโยชน์ได้ดีไม่แพ้กัน
2. บิฟิโดแบคทีเรียม
ใครที่มักเจอกับอาการลำไส้แปรปรวน ทำให้เกิดผลกระทบในชีวิตประจำวัน แนะนำว่าให้คุณนั้นมองหาจุลินทรีย์ตัวนี้มาเติม เพราะถือว่าเป็นหนึ่งในประเภทของโปรไบโอติกที่ดีที่สุดที่จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ โดยเน้นการทานอย่างต่อเนื่องจะช่วยปรับสมดุลได้
3. แซคคาโรไมซิส
สำหรับใครที่เจออาการท้องเสียบ่อย ๆ หรือกำลังอยู่ในช่วงที่ต้องเจออาการนี้ปล่อยทิ้งไว้มีแต่จะส่งผลเสีย ทำให้ร่างกายขาดน้ำ เสียความมั่นใจ อ่อนเพลีย เรียกได้ว่าไม่มีข้อดีใด ๆ เลย ดังนั้นควรรีบมองหาโปรไบโอติกอย่างจุลินทรีย์ตัวนี้มาทานเพื่อบรรเทาอาการท้องเสีย ป้องกันปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร
อาหารที่มีโปรไบโอติกส์มีอะไรบ้าง
เมื่อรู้กันแล้วว่าอาหารที่มีโปรไบโอติกคือสิ่งที่ร่างกายไม่ควรพลาด เราลองมาดูกันดีกว่าว่าคุณจะสามารถมองหาโปรไบโอติกมีในอาหารอะไรบ้าง เพื่อเติมจุลินทรีย์ตัวนี้เข้าร่างกายได้ เผื่อว่าใครชอบตัวไหนเป็นพิเศษจะได้เริ่มทาน เพิ่มความสมดุลให้ระบบในร่างกายกันเลย
Yogurt
หนึ่งในตัวเลือกที่นิยมมากที่สุด เพราะโยเกิร์ตที่มีโปรไบโอติกสูงนั่นเอง แถมยังมาพร้อมความอร่อย สะดวก ทานง่าย พกไปได้ทุกที่ ทานกันได้ทุกเวลา ปรับเข้ากับเมนูได้มากมาย ยิ่งถ้าคุณเจอกับโยเกิร์ตที่มีโปรไบโอติกแบบสด ๆ อยู่ยิ่งดีกับสุขภาพอย่างแน่นอน โดยยังควรมองหาโยเกิร์ตที่มีปริมาณของโปรไบโอติกอย่างน้อย 100 ล้าน CFU ขึ้นไป พร้อมทั้งระบุชนิดของโปรไบโอติกเอาไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้คุณได้เลือกทานสิ่งที่เหมาะกับร่างกายของคุณมากที่สุดนั่นเอง
นมเปรี้ยว
ใครชอบให้ดื่มง่ายขึ้นมาอีกหน่อย นมเปรี้ยวก็ให้โปรไบโอติกได้น่าประทับใจไม่แพ้กัน แบบที่แนะนำเลยคือการดื่มนมเปรี้ยวในแบบที่พาสเจอร์ไรซ์ เพราะโปรไบโอติกจะยังมีชีวิตอยู่ ทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์มากกว่าแบบอื่น ๆ นั่นเอง ส่วนถ้าใครมองหานมเปรี้ยวแบบที่ดูแลหุ่นได้ด้วยแนะนำว่าให้เลือกแบบไขมันต่ำ น้ำตาลน้อย รับรองว่าดีกับสุขภาพทุกมิติอย่างแน่นอน
คอมบูชา
ชาหมักที่กำลังเป็นกระแสช่วยในเรื่องของการขับถ่ายอยู่ในตอนนี้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งที่ดีและมีโปรไบโอติกอยู่สูง มีทั้งแบคทีเรีย จุลินทรีย์ และยีสต์ที่ดี มีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระ กรดแอซีติก และวิตามิน ทั้งหมดคือสิ่งที่ดีกับร่างกายของคุณ สิ่งสำคัญคือการมองหาคอมบูชาที่ผ่านการหมักแบบมาตรฐาน สะอาด ปลอดภัย เพราะไม่อย่างนั้นอาจทำให้คุณเจอกับสารปนเปื้อนจนเป็นอันตรายแทนได้
โยเกิร์ตที่มีโปรไบโอติกสูงดีกับคุณ และระบบทางเดินอาหารอย่างไร
เมื่ออาหารที่มีโปรไบโอติกจำเป็นกับร่างกายและโยเกิร์ตที่มีโปรไบโอติกสูงสามารถหาทานง่าย เราลองมาดูประโยชน์ของโยเกิร์ตกันเพิ่มดีกว่าว่าถ้าเลือกทานแล้วจะดีกับร่างกายคุณ พร้อมทั้งดูแลระบบทางเดินอาหารได้อย่างไรบ้าง
แก้ท้องผูก
ใครเจอปัญหานี้บอกเลยว่าทำให้รู้สึกไม่สบายท้องกันอย่างแน่นอน สาเหตุหลัก ๆ เป็นเพราะคุณทานอาหารที่มีกากใยน้อยจนเกินไป ดังนั้นโยเกิร์ตเข้ามาช่วยในเรื่องนี้ได้ เพราะจะเข้ามาปรับสมดุลทางเดินอาหาร ช่วยระบบขับถ่าย กระตุ้นการย่อย กระตุ้นการขับถ่ายในช่าวเช้า แก้อาการท้องเสีย และติดเชื้อที่ลำไส้ได้อีกด้วย
ช่วยคุมน้ำหนัก
โปรตีนในโยเกิร์ตนั้นสูงจึงช่วยให้อิ่ท้องนานขึ้น ยิ่งถ้าเป็นรสธรรมชาติยิ่งมีโปรตีนสูงมากขึ้นถึง 2 เท่า มาพร้อมแคลลอรี่ที่ต่ำ เน้นทานคู่กับผลไม้ หรือสลัดจะยิ่งช่วยเพิ่มกากใย โปรตีน และโปรไบโอติกให้ร่างกายได้ในเวลาเดียวกัน
รักษาเชื้อราในช่องคลอด
พวกเราอาจชินว่าโปรไบโอติกนั้นดูแลในส่วนของระบบการย่อย หรือทางเดินอาหาร แต่สำหรับผู้หญิงนั้นสามารถใช้เพื่อช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในช่องคลอดที่เกิดจากเชื้อราต่าง ไ ได้อีกด้วย พบว่าถ้าทานทุกวันสามารถลดการติดเชื้อลงได้กว่า 3 เท่า อร่อย ได้ประโยชน์แบบนี้ บอกเลยว่าไม่ควรพลาด
แคลเซียมสูง
ใครที่อยากให้กระดูกและฟันแข็งแรง ไม่ต้องพึ่งแค่นมวัว โยเกิร์ตก็สามารถช่วยคุณได้ เพราะมีกรดแลกติก ที่จะทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงกระดูกพรุน ป้องกันความดันสูง ต้านมะเร็งลำไส้ แถมยังให้แคลเซียมได้สูงกว่านมอีกด้วย
รวมนมและโยเกิร์ตอาหารที่มีโปรไบโอติกส์จาก Butterfly
ไม่ว่าจะเป็นโยเกิร์ต นมเปรี้ยว หรือผลิตภัณฑ์จากนมวัวที่ Butterfly ก็พร้อมที่จะให้คุณได้เข้ามาเลือกสินค้าตามที่ต้องการ เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดไปดูแลสุขภาพ เพราะทุกกระบวนการผลิตของโรงงานแห่งนี้ทำให้ขั้นตอนแบบออร์แกนิค สด สะอาด ปลอดภัยตามระดับของมาตรฐานระดับโลก มั่นใจได้เลยว่าการเลือกผลิตภัณฑ์จากที่นี่จะไม่ได้แค่เครื่องดื่มเท่านั้น แต่จะได้ความใส่ใจจากเราไปดูแลคุณและคนที่คุณรักด้วย
หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งที่เกี่ยวกับสินค้า การจัดส่ง หรือผลิตภัณฑ์แบบ OEM คุณสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 034 110 496 (สำนักงานใหญ่) หรือที่ LINE : @butterflyorganic รวมทั้งมองหาสินค้าในประเภทต่าง ๆ ได้ที่หน้าเว็บไซต์ของ Butterfly
FAQ : ข้อสงสัยเกี่ยวกับอาหารที่มีโปรไบโอติกส์
ความจริงแล้วอาหารที่มีจุลินทรีย์อย่างโปรไบโอติกนั้นมีหลากหลาย แต่ประเภทที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือ โยเกิร์ต นมเปรี้ยว คอมบูชา คีเฟอร์ ขิงดอง กิมจิ มิโสะ เทมเป้ และนัตโตะ
สำหรับประเภทของโพรไบโอติกในท้องตลอดนั้นแนะนำว่าควรทานตอนท้องว่าง หรือก่อนอาหารอย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้โพรไบโอติกทำหน้าที่เกาะลำไส้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ก็จะต้องดูกันเป็นรายตัวอีกครั้ง เพราะบางครั้งแต่ละผู้ผลิตใส่จุลินทรีย์มาต่างกัน ควรเลือกทานในแบบที่ผู้ผลิตแนะนำจะช่วยให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด
เหมาะกับทุกเพศทุกวัย แต่เหมาะเป็นพิเศษกับคนที่มีปัญหาเรื่องของการขับถ่าย เพราะจะสามารถเข้าไปช่วยปรับสมดุลได้นั่นเอง
แนะนำว่าช่วงเวลาที่ท้องว่างอย่างก่อนนอน หรือช่วงเช้าก่อนอาหารอย่างน้อย 30 นาทีเหมาะกับการทานมากที่สุด