สารบัญบทความ
Toggleลําไส้แปรปรวน เชื่อว่าเป็นอาการที่หลาย ๆ คนกำลังประสบอยู่และอาจกำลังไม่รู้ตัวว่ากำลังตกอยู่ในภาวะโรคนี้ โดยอาการทั่วไปจะประกอบด้วย อาการท้องเสีย ท้องผูก หรือทั้งสองอาการสลับกัน โดยจะเห็นว่าเป็นกลุ่มอาการที่แสดงถึงความแปรปรวนของลำไส้อย่างเห็นได้ชัด และแม้จะดูไม่มีอันตรายต่อชีวิต แต่ภาวะนี้ก็ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก ดังนั้นการรักษาและดูแลตนเองให้หายจึงย่อมดีกว่า
อย่างไรก็ดีนอกจากรู้เท่าทันสาเหตุและอาการเบื้องต้นของภาวะนี้แล้ว อีกสิ่งที่สำคัญคือการเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อลำไส้และการขับถ่ายด้วย ซึ่งหนึ่งในอาหารดังกล่าวที่หลาย ๆ คนจะนึกถึงก็คงไม่พ้น “โยเกิร์ต” เมนูเจ้าประจำที่ไม่ว่าใครจะมีปัญหาการขับถ่ายเมื่อไหร่เป็นต้องนึกถึง ซึ่งมันจะสามารถบรรเทาอาการผิดปกติของลำไส้ชนิดนี้ได้หรือไม่ และสามารถช่วยได้อย่างไร ในบทความนี้ Butterfly Organic มีคำตอบ
แต่ก่อนอื่นเราไปทำความรู้จักกับภาวะผิดปกติของลำไส้ชนิดนี้ก่อนว่าคืออะไร และเกิดจากอะไรกันแน่
ลําไส้แปรปรวน คือ…
หรือ irritable bowel syndrome: IBS เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของการทำงานของลำไส้ส่วนปลาย ได้แก่ ปลายลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ ซึ่งมีการบีบตัวมากเกินไปและมีอาการไวต่อสิ่งกระตุ้น เช่น อาหารที่มีรสเผ็ด ชากาแฟ หรือไวต่อความเครียด ทำให้ผู้ที่เป็นโรคนี้มักมีอาการปวดเกร็งหรือแน่นอึดอัดท้อง ร่วมกับการขับถ่ายอุจจาระที่ผิดปกติ เช่น ท้องผูกหรือท้องเสีย โดยจะมีอาการเป็นๆ หายๆ ต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน
ลําไส้แปรปรวน เกิดจากอะไร มีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง
สาเหตุของโรคยังไม่ทราบแน่ชัด เบื้องต้นพบว่ามีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง อาจเคยมีการติดเชื้อในลำไส้นำมาก่อน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของแบคทีเรียในลำไส้และทำให้เกิดโรค หรือบางรายมีประวัติเคยเจ็บป่วยหรือถูกทำร้ายสมัยเด็กหรือมีความเครียด อาจทำให้กลายเป็นโรคลำไส้แปรปรวนได้
มีหลายปัจจัยร่วมกันที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดภาวะลำไส้แปรปรวน ได้แก่
– การบีบตัวของลำไส้ผิดปกติ
– การรับรู้ของระบบทางเดินอาหารที่ไวต่อสิ่งกระตุ้นมากกว่าปกติ
– ปัญหาในการย่อยอาหาร
– การติดเชื้อในทางเดินอาหาร
– ปัญหาทางด้านจิตใจและอารมณ์
– การใช้ยาบางชนิด
– กรรมพันธุ์ โดยพบว่า ในครอบครัวที่มีสมาชิกเป็นโรคลำไส้แปรปรวน จะมีแนวโน้มในการเกิดโรคนี้ได้ 2 – 3 เท่า
โรคลำไส้แปรปรวนไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต แต่เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เนื่องจากเป็นโรคเรื้อรังและมีแนวโน้มที่จะกลับมาเป็นอีก หากผู้ป่วยยังคงไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร และไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
ลำไส้แปรปรวน อาการเบื้องต้นที่ควรสังเกตตนเอง
โรคลำไส้แปรปรวนมีอาการบ่งชี้ที่สำคัญ ได้แก่ อาการปวดท้องเรื้อรังเป็น ๆ หาย ๆ นานเกิน 6 เดือนขึ้นไป ร่วมกับการขับถ่ายผิดปกติ ซึ่งสามารถแบ่งตามกลุ่มอาการได้ดังนี้
– กลุ่มอาการท้องเสีย
– กลุ่มอาการท้องผูก
– กลุ่มอาการท้องเสียสลับท้องผูก
ทั้งนี้ผู้ป่วยต้องไม่มีอาการอันตราย เช่น ถ่ายอุจจาระมีมูกหรือเลือดปน น้ำหนักลด ซีด อาเจียน อุจจาระมีขนาดเล็กลงเรื่อย ๆ มีอาการปวดเบ่งถ่ายอุจจาระไม่สุด
ลําไส้แปรปรวน วิธีรักษาแบ่งออกได้กี่วิธี
เนื่องจากโรคลำไส้แปรปรวนยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่ชัดเจนของโรคได้ การรักษาจึงเป็นการรักษาตามอาการ เช่น การให้ยาระบาย ยาลดอาการปวดเกร็งโดยออกฤทธิ์ลดการบีบตัวของลำไส้ และยาแก้ท้องเสีย เป็นต้น แต่การรักษาด้วยวิธีนี้ไม่ใช่การกำจัดสาเหตุของโรคโดยตรง จึงอาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการเป็น ๆ หาย ๆ ได้อีก
นอกเหนือจากการใช้ยาแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นส่วนสำคัญสำหรับการรักษาคือ ผู้ป่วยต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองในชีวิตประจำวันเพื่อทำให้อาการไม่กำเริบ ได้แก่..
– ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารให้ถูกต้อง เช่น รับประทานอาหารให้ตรงเวลา หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง รับประทานอาหารที่มีกากใยสูง ไม่รับประทานอาหารจนอิ่มมากเกินไป เป็นต้น
– ดื่มน้ำมาก ๆ
– ลดภาวะเครียดหรือความกังวลต่าง ๆ
– ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
– พักผ่อนให้เพียงพอ
– ไม่กลั้นถ่ายอุจจาระ
ลําไส้แปรปรวน ควรกินอะไร อาหารประเภทไหนที่คนลำไส้ไม่ดีควรกิน
ในปัจจุบัน การวิจัยทางวิทยาศาสตร์มุ่งเน้นความสนใจไปยังวิธีการรับประทานอาหารเพื่อรักษาอาการของลำไส้แปรปรวนที่สำคัญ โดยตัวอย่างอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยมีดังนี้
อาหารที่มีไฟเบอร์สูง
การรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูงอย่างผัก ผลไม้และธัญพืชเต็มเมล็ดจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถขับถ่ายได้ดีขึ้นและป้องกันอาการท้องผูก โดยทั่วไปวัยผู้ใหญ่ควรรับประทานไฟเบอร์ในปริมาณ 20-34 กรัมต่อวัน และค่อย ๆ เพิ่มปริมาณไฟเบอร์ในมื้ออาหารวันละ 2-3 กรัม แต่หากผู้ป่วยมีอาการท้องอืดเนื่องจากการรับประทานไฟเบอร์จากธัญพืชมากเกินไป ควรเน้นผักและผลไม้แทน
อาหารที่มีไฟเบอร์ต่ำ
ผู้ป่วยโรคลำไส้แปรปรวนที่มีอาการท้องเสียไม่ควรรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์มากเกินไปเพราะอาจส่งผลให้อาการท้องเสียรุนแรงขึ้น ผู้ป่วยควรรับประทานแอปเปิล เบอร์รีชนิดต่าง ๆ แครอท หรือข้าวโอ๊ตเนื่องจากอาหารเหล่านี้มีใยอาหารที่ละลายน้ำ (Soluble Fiber) เพื่อไม่ให้ปริมาณไฟเบอร์ในร่างกายมากเกินไป
อาหารไขมันต่ำ
โดยทั่วไปอาหารที่มีไขมันสูงจะมีปริมาณไฟเบอร์ต่ำ ซึ่งเป็นอาหารที่ทำให้อาการของโรคลำไส้แปรปรวนรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีอาการท้องเสียและท้องผูกรวมกัน ซึ่งการรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำจะช่วยให้ลำไส้สามารถทำงานได้ดีขึ้น ผู้ป่วยจึงควรรับประทานเนื้อสัตว์ที่ไม่มีไขมัน ผัก ผลไม้ ธัญพืชและผลิตภัณฑ์นมที่มีไขมันต่ำ
อาหารปลอดกลูเตน
กลูเตนคือโปรตีนที่พบได้ในผลิตภัณฑ์จากธัญพืช อย่างเส้นพาสต้าหรือขนมปัง โปรตีนชนิดดังกล่าวอาจทำลายลำไส้ได้ในผู้ที่มีอาการแพ้กลูเตน บางรายที่มีอาการแพ้หรือไวต่อกลูเตนจะมีอาการของโรคลำไส้แปรปรวนร่วมด้วย
อาหารที่มีโพรไบโอติก
เช่น โยเกิร์ต กิมจิ คอมบูชา ขิงดอง เป็นต้น เพราะอาหารที่มี Probiotics หรือแบคทีเรียชนิดดีชนิดนี้ มีสรรพคุณสร้างสมดุลให้กับลำไส้ ลดการอักเสบ ทำให้การขับถ่ายกลับมาเป็นปกติ แม้หลักฐานของการเปลี่ยนแปลงของจุลินทรีย์ลำไส้กับการเกิดลำไส้แปรปรวนยังไม่ชัดเจน แต่พบว่าปัจจุบันมีการนำ Probiotics มาใช้ในการรักษาลำไส้แปรปรวนด้วยเช่นกัน
ข้อดีของโยเกิร์ตที่มีต่ออาการลำไส้แปรปรวน
หลาย ๆ คนอาจยังไม่ทราบว่า นอกจากโยเกิร์ตนั้นนอกจากช่วยลดความอ้วนแล้วยังสามารถช่วยปรับสมดุลในลำไส้ของเราได้อีกด้วย เนื่องจากอุดมไปด้วย “โพรไบโอติก” ซึ่งเป็นแบคทีเรีย หรือ จุลินทรีย์ชนิดดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เมื่อรับประทานเข้าไปในจำนวนที่เพียงพอ จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพ โดยเข้าไปลดจำนวนจุลินทรีย์ก่อโรคในลำไส้ ทำให้เกราะป้องกันบริเวณเยื่อบุลำไส้แข็งแรงมากขึ้น รวมถึงช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ประโยชน์ของโพรไบโอติก
– ช่วยลดอาการท้องผูก ท้องเสีย
– ช่วยลดอาการลำไส้แปรปรวน (Irritable bowel syndrome) และลำไส้อักเสบ (Inflammatory bowel diseases; IBD)
– ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
ดังนั้นเพื่อให้ร่างกายของคุณและคนในครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรง เริ่มต้นดูแลร่างกายด้วยการรับประทานอาหารที่มีโพรไบโอติก เช่น โยเกิร์ตจากนมพืช กิมจิ ซุปมิโสะ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การซ่อมแซมร่างกายให้ได้ผลดีและยั่งยืนที่สุด ต้องเริ่มต้นที่สาเหตุ ฉะนั้นต้องไม่ลืมปรับเปลี่ยนวิถีใช้ชีวิต ไม่เครียดจนเกินไป นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายและบำรุงสุขภาพได้อย่างแท้จริง
โยเกิร์ตออแกร์นิคจาก Butterfly Organic
โยเกิร์ตออร์แกนิคของเรา ไม่ใช่แค่วัวที่เลี้ยงแบบกินหญ้า Grass Fed เท่านั้น แต่เป็นวัวที่กินหญ้าออร์แกนิค 100% (certified organic) ไม่มีการใช้ยาปฏิชีวนะ หรือสารเคมีใด ๆ ทั้งกับตัววัวและพื้นที่ในฟาร์ม เราปล่อยวัวให้เดินเล่นในทุ่งกว้าง ไม่มีการกักขัง เพื่อให้วัวของเราได้มีสุขภาพแข็งแรง อารมณ์ดี เพื่อให้ผลผลิตดีตามไปด้วย จนเราได้รับการปิดฉลากจากมาตรฐานออร์แกนิค USDA (NOP) องค์กรที่ดูแลผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจากประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยออร์แกนิคโยเกิร์ต ชนิดคงตัวของเรานั้นมีคุณสมบัติที่ดีหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น…
– ผลิตจากนมออร์แกนิคเต็มมันเนย เข้มข้น หอมมัน และหวานเบา ๆ แบบปราศจากเคมีด้วยน้ำตาลทรายออร์แกนิค
– มีจุลินทรีย์โพรไบโอติก (Probiotic) และจุลินทรีย์มีชีวิต (Live Yogurt Cultures)
– เชื้อจุลินทรีย์ที่ใช้ประกอบด้วย : Lactobacillus rhamnosus, Lactobacillus delbrueckii subsp. bulgaricus, Streptococcus thermophilus
– ไม่มีการปรุงแต่งด้วยสารเคมีต่าง ๆ เช่น สารเพิ่มความหนืด, สารเพิ่มความคงตัว ฯลฯ
– ไม่มีการผสมนมผง หรือแต่งกลิ่นสังเคราะห์ใด ๆ จึงเข้มข้น หอมมัน จากรสชาติของโยเกิร์ตจริง ๆ
– อย่างไรก็ดี เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าโยเกิร์ตของเราปลอดภัย ไร้สารเจือปน ส่งตรงมาจากฟาร์มอย่างแน่นอน สำหรับผู้ที่สนใจสั่งสินค้าและดูสินค้าเพิ่มเติม สามารถติดตามผ่านไลน์ได้ที่นี่ (คลิก)
FAQ
ลำไส้แปรปรวนเป็นภาวะที่สามารถจัดการได้ ด้วยการวางแผนการรับประทานอาหารและการปฏิบัติตนที่เหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์
ลำไส้แปรปรวนจะเป็นมะเร็งไหม
โรคลำไส้แปรปรวนไม่ใช่โรคที่เป็นอันตรายถึงชีวิต ไม่ใช่สัญญาณของโรคมะเร็ง และผู้ป่วยก็สามารถมีอายุยืนยาวได้เช่นเดียวประชากรทั่วไป แต่อาการเป็น ๆ หาย ๆ ของโรคนั้นส่งผลให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ด้อยลง โดยส่วนใหญ่มักเกิดความเครียดเมื่อไม่หายขาด กังวลว่าจะเป็นโรคร้าย หรือในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการท้องเสียเป็นหลัก ดังนั้นควรรักษาให้หายจะดีกว่า