สารบัญบทความ
Toggleผลิตภัณฑ์นมออร์แกนิค นับได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากมายในปัจจุบัน เนื่องจากใน 2-3 ปีให้หลังมานี้เป็นช่วงที่เราทุกคนทราบกันดีว่าเราต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากในการดูแลสุขภาพของตนเองและป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งแม้ในปัจจุบันจะมียอดผู้ติดเชื้อที่ลดลงบ้างแล้ว แต่ผู้บริโภคหลายๆ คนยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลตนเองโดยการเลือกรับประทานอาหารอยู่เสมอ นั่นเป็นเพราะอยากมีสุขภาพที่ดีและมีภูมิต้านทานมากพอที่จะไม่ให้ตนเองตกอยู่ในภาวะผู้ป่วยติดเชื้อ อย่างไรก็ดี ในบทความนี้ Butterfly Organic จึงนำข้อมูลที่เกี่ยวกับนมแบบออร์แกนิคมาฝากผู้อ่านอีกครั้งเพื่อให้ทุกคนทราบว่าเจ้านมชนิดนี้ดีอย่างไรและทำไมจึงเป็นนมที่คนในยุคนี้ต้องดื่ม
stable type คืออะไร ทำไมจึงเป็นที่นิยมสำหรับคนสายรักสุขภาพในปัจจุบัน ?
ออร์แกนิค คือ สิ่งมีชีวิตที่ถูกผลิตขึ้นด้วยวิธีแบบอินทรีย์ และพึ่งพาสารเคมีให้น้อยที่สุด ซึ่งต้องทำโดยเกษตรกรที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญทางการเกษตรอินทรีย์ เพื่อให้ผลผลิตที่ออกมานั้นปลอดสารพิษ
ทั้งนี้กระบวนการผลิตแบบออร์แกนิคนั้นยังมีจุดประสงค์ในด้านอื่น ๆ อีกหลายด้าน เช่น
- ปรับปรุงคุณภาพของดินและน้ำในพื้นที่การเกษตร
- ลดมลพิษในสิ่งแวดล้อม
- ช่วยให้ที่อยู่อาศัยของสัตว์ที่เลี้ยงเพื่อบริโภคปลอดภัย และถูกสุขอนามัยมากขึ้น
- ช่วยให้สัตว์ที่เลี้ยงเพื่อบริโภคมีพฤติกรรมที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น ลดความเสี่ยงการ กลายพันธุ์
- ช่วยให้ระบบวัฏจักรและวงจรธรรมชาติต่าง ๆ ในไร่ดีขึ้น
และเพื่อให้การเกษตรแบบออร์แกนิคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กระบวนการบางอย่างที่ใช้ในการเกษตรจะถูกห้ามนำมาใช้เพื่อป้องกันการปนเปื้อน อันได้แก่
- การใช้ปุ๋ยสังเคราะห์ หรือปุ๋ยเคมีเพื่อเพิ่มสารอาหารในดิน
- การใช้กากตะกอนจากน้ำเสียเป็นปุ๋ยให้แก่พืช
- การใช้สารเคมีฆ่าแมลงเพื่อควบคุมศัตรูพืช
- การฉายรังสีกับผลิตผลเพื่อป้องกันโรคและศัตรูพืช
- การตัดต่อพันธุกรรมเพื่อช่วยให้ผลิตผลที่ออกมามีคุณภาพ และปริมาณมากขึ้น หรือกำจัดโรคหรือศัตรูพืชที่อาจทำร้ายพืชและสัตว์
- การใช้ยาปฏิชีวนะ หรือโกรทฮอร์โมนเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตในปศุสัตว์
ทั้งนี้ผลผลิตออร์แกนิคที่ออกมาส่วนใหญ่ มักจะอยู่ในหมวดของอาหาร เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช ผลิตภัณฑ์จากนม และเนื้อสัตว์ เป็นต้น ซึ่งมักเรียกว่า อาหารออร์แกนิค
เหตุใดออร์แกนิคจึงได้รับความนิยม ?
ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคได้รับความนิยมมากขึ้นด้วยสาเหตุที่ว่า ผู้คนส่วนใหญ่กังวลว่าอาหารหรือวัตถุดิบในท้องตลาดนั้นอาจปนเปื้อนด้วยสารเคมี ยาปฏิชีวนะ หรือฮอร์โมนเร่งโตที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค จึงมองหาตัวเลือกที่เชื่อว่าจะช่วยให้ปลอดภัยจากสารพิษได้มากที่สุด นั่นก็คือการอุปโภคบริโภคผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค แม้ว่าราคาจะสูงกว่าสินค้าการเกษตรทั่ว ๆ ไปก็ตาม
นมออร์แกนิค คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร?
โดยทั่วไป ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากพื้นฐานอันแท้จริงของธรรมชาติ เกื้อหนุนต่อระบบนิเวศ โดยไม่มีการปนเปื้อนของสารสังเคราะห์ใดๆ ในทุกขั้นตอนการผลิต น้ำนมออร์แกนิคก็เช่นเดียวกัน ดังนั้นในกระบวนการผลิตน้ำนมออร์แกนิค ต้องเริ่มจากฟาร์มโคนมออร์แกนิคนั่นเอง
โดยการทำออร์แกนิคฟาร์มมีหลักเกณฑ์อยู่หลายข้อด้วยกัน หลักๆ คือภายในบริเวณฟาร์มต้องห้ามใช้สารเคมีทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมี สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช สารปรุงแต่งทุกชนิด ส่วนพื้นที่ในการทำฟาร์มก็ต้องไม่ไปบุกรุกป่าต้นน้ำหรือทำลายระบบนิเวศดั้งเดิม และต้องรักษาความหลากหลายทางชีวภาพภายในฟาร์ม รวมถึงมีพืชสำหรับใช้เป็นอาหารสัตว์หลากหลายชนิดด้วยเช่นกัน ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวเท่านั้นจึงจะถือว่านมที่ผลิตกลายเป็น เครื่องดื่มออร์แกนิค อย่างเต็มรูปแบบ
“นมออร์แกนิค” นมสำหรับเด็กเป็นภูมิแพ้
อาการ จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล นอนกรน หรือผื่นขึ้นตามตัว ขยี้ตาบ่อยๆ ของลูกที่มีอาการเรื้อรัง เป็นๆหายๆมานาน คุณพ่อคุณแม่อย่าได้นิ่งนอนใจ อาการเหล่านี้เป็นอาการของโรคภูมิแพ้ ที่ลูกๆควรจะได้รับการดูแลและการรักษา มักเกิดจากปฏิกิริยาของภูมิคุ้มกันในร่าง กายมีการตอบสนองที่มากผิดปกติต่อสารก่อภูมิแพ้ที่เข้าสู่ร่างกาย ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังที่อวัยวะต่างๆในร่างกาย เช่น ผิวหนัง เยื่อบุจมูก เยื่อบุตา เยื่อบุทางเดินหายใจ หรือเยื่อบุทางเดินอาหาร เป็นต้น อย่างไรก็ตาม วิธีการรักษาอาการแพ้เช่นนี้มีการวิจัยออกมาสนับสนุนว่าการทานอาหารที่มี Synbiotics ช่วยลดอาการผื่นแพ้ได้ ซึ่ง นมออร์แกนิค เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มีสารตัวนี้อยู่นั่นเอง
Synbiotic คืออาหารหรือส่วนประกอบในอาหารที่มีทั้ง Prebiotics (เป็นอาหารของจุลินทรีย์ดี ที่ร่างกายต้องสร้างเอาเอง) และ Probiotics (จุลินทรีย์ดีชนิดที่ทานเพิ่มได้) นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคุณพ่อคุณแม่จึงต้องเลือกนมชนิดนี้ให้กับลูกน้อยเพื่อป้องกันเด็กๆ ให้ห่างจากโรคภูมิแพ้ที่เราไม่รู้เลยว่าจะเกิดขึ้นกับลูกๆ ของเราเมื่อไหร่นั่นเอง
แพ้นมคืออะไร ทำไมจึงเป็นอาการที่ควรระวัง
จริงๆ แล้ว ภาวะนี้ไม่ใช่การแพ้นม แต่เป็นอาการอันไม่พึงประสงค์หลังการรับประทานนม(Adverse food reaction) เท่านั้น เกิดจากการที่ร่างกายย่อยน้ำตาลแลคโตสในนมผิดปกติ น้ำตาลแลคโตส (lactose) เป็นน้ำตาลที่มีมากในน้ำนมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม โดยในน้ำนมคนมีสูงถึงร้อยละ 7 น้ำนมวัวแพะแกะอูฐมีร้อยละ 4 โดยน้ำตาลชนิดนี้มีโมเลกุลใหญ่ก่อนจะถูกดูดซึมเข้าสู่ผิวเยื่อบุผนังลำไส้ต้องผ่านการย่อยด้วยเอนไซม์แลคเทส (lactase) ซึ่งน้ำย่อยนี้สร้างจากเยื่อบุผนังลำไส้เล็กเท่านั้น โดยปกติในทารกซึ่งทานนมเป็นอาหารหลัก จะมีปริมาณน้ำย่อยแลคเทสมาก แต่เมื่อโตขึ้นทานข้าวเป็นอาหารหลักร่างกายจะสร้างน้ำย่อยแลคเทสลดลง แต่ยังเพียงพอสำหรับการย่อยจึงไม่เกิดอาการผิดปกติต่างๆ นั่นเอง
แพ้นม อาการมีอะไรบ้าง?
โดยทั่วไปมี 3 อาการหลักโดยอาจเกิดขึ้นอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้และจะเกิดขึ้นไม่เกิน 4 สัปดาห์หลังได้รับนมวัว คือ
อาการทางผิวหนัง ซึ่งจะพบได้ทั้งแบบผื่นลมพิษ โดยจะเป็นผื่นแดง คัน ทั้งตัว หรือเป็นบางส่วนของร่างกาย หรืออาจเป็นผื่นคัน ฝ้าขาว นูน ก็ได้ |
อาการทางเดินหายใจ ซึ่งอามีอาการตั้งแต่คัดจมูกเรื้อรัง น้ำมูกไหลเรื้อรัง มีเสมหะในลำคอหรือหลอดลม จนกระทั่งเป็นปอดอักเสบก็ได้ |
อาการทางเดินอาหาร ที่พบได้ตั้งแต่ อาการสำรอกนมหรืออาเจียนบ่อย ร้องกวนโคลิกทุกคืน ถ่ายเหลวเรื้อรัง หรือแม้กระทั่งท้องผูกรุนแรง |
ซึ่งอาการต่างๆ ที่ได้กล่าวมาถือเป็นภาวะอันตรายที่ผู้บริโภคควรระวัง การเลือกดื่มนมที่ไร้สารเคมีตกค้างหรือตกค้างน้อยที่สุดจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น เพราะถือว่าเป็นการป้องกันอาการแพ้นมที่ง่ายที่สุดสำหรับผู้บริโภคที่สามารถป้องกันกันเองได้
Organic Yogurt อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ดี
โยเกิร์ต คือ นมหมักที่นิยมกินกันอย่างแพร่หลายทั่วโลกอย่างยาวนานและเป็นแหล่งโปรตีนทางเลือกนอกเหนือจากนมสด โยเกิร์ตมีหลากหลายแบบ รสชาติแตกต่างกันจากนมที่นำมาหมัก ไม่ว่าจะนมวัว นมแพะ นมม้า นมถั่วเหลือง หรือนมมะพร้าว โดยเมื่อเป็นโยเกิร์ตแบบออร์แกนิค สิ่งที่ทำให้ต่างจากโยเกิร์ตอื่นๆ ที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ กรรมวิธีการผลิต ที่โยเกิร์ตแบบออร์แกนิคนั้นถูกผลิตตามกรรมวิธีตามธรรมชาติ ไร้สารเคมี ดังนั้นจึงแปลได้ว่า โยเกิร์ตแบบออร์แกนิคจะไม่มีสารเคมีเจือปน เช่น สารกันบูด การผสมนมผง หรือการแต่งรส สี เลียนแบบธรรมชาติ เป็นต้น ซึ่งรวมถึงคุณค่าทางโภชนาการที่มีมากกว่าด้วย
ทั้งนี้โยเกิร์ตยังเป็นแหล่งที่สามารถพบจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่าง “โพรไบโอติกส์” ที่ไม่ว่าที่ไหนในยุคนี้ก็ถือว่าเป็นจุลินทรีย์ที่ใครๆ ก็พูดถึงและรู้จักกันทั้งสิ้น เพราะนอกจากจะมีประโยชน์ต่อระบบขับถ่ายแล้ว มันยังมีประโยชน์ในเรื่องการเสริมภูมิคุ้มกันอีกด้วย
“โพรไบโอติกส์” จุลินทรีย์ตัวดังที่มีประโยชน์มากกว่าการกระตุ้นการขับถ่าย
จากที่ได้กล่าวไปว่า โพรไบโอติกส์ นั้น นอกจากจะให้ประโยชน์มากกว่ากระตุ้นและดูแลคารทำงานต่อระบบขับถ่ายแล้ว มันยังถือว่าเป็น อาหารเสริมภูมิคุ้มกัน ให้กับผู้บริโภคอีกด้วยโดยเฉพาะในผู้ป่วยหลังรักษาอาการโควิดและต้องเพิ่มภูมิอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันอาการ Long Covid นั่นเอง
การระบาดของโรคโควิด-19 ยังไม่หายไปจากสังคม ทำให้จำนวนผู้ป่วยยังคงเพิ่มขึ้นอยู่ในประเทศไทย แม้จะสามารถรักษาให้หายได้ แต่ก็ต้องระวังอาการลองโควิด หรือในช่วง Home Isolation ระหว่างการกักตัว 14 วัน ก็ต้องหมั่นดูแลสุขภาพร่างกายไม่ให้ภูมิคุ้มกันตก เกิดผื่นแดงโควิด ซึ่งอาการเหล่านี้ สามารถบรรเทาได้ด้วยการใช้โพรไบโอติกส์
โดยผู้ที่หายจากโรคโควิด-19 แล้วจะมีจุลินทรีย์ในลำไส้ไม่ปกติ ส่งผลให้มีอาการในระบบทางเดินอาหาร การรับประทานโพรไบโอติกส์จะช่วยปรับสมดุลแบคทีเรียในลำไส้ ช่วยให้ลำไส้กลับมาทำงานได้ปกติ ทั้งยังจะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย จึงแนะนำให้รับประทานอาหารที่มีโพรไบโอติกส์สูง ร่วมกับการทานยารักษาโรคโควิด เช่น ฟ้าทะลายโจร เพื่อรักษาอาการลองโควิด ช่วยให้ร่างกายกลับมาแข็งแรง
อาหารเสริมภูมิต้านทาน ที่มีโพรไบโอติกส์ ประกอบด้วยอะไรบ้าง?
1. โยเกิร์ต
เป็นอาหารที่มีโพรไบโอติกส์ รับประทานง่าย มีรสชาติอะไร ในการรับประทานโยเกิร์ตโพรไบโอติกส์ควรเลือกโยเกิร์ตที่มีโพรไบโอติกส์สดๆ ระบุฉลากผลิตภัณฑ์ชัดเจน เช่น Active Probiotic, Live Probiotic และควรเลือกโยเกิร์ตที่มีโพรไบโอติกส์สายพันธุ์ที่มีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหาร เช่น Bifidobacterium, Lactobacillus casei, Lactobacillus acidophilus
2. นมเปรี้ยว
คือนมที่ผ่านการหมักจนเกิดโพรไบโอติกส์ขึ้นในตัวนม ในการเลือกรับประทานนมเปรี้ยว ก็ควรเลือกรับประทานนมเปรี้ยวที่มีโพรไบโอติกส์สายพันธุ์เดียวกับที่มีในโยเกิร์ต เพราะเป็นสายพันธุ์ที่ทานแล้วช่วยเรื่องระบบทางเดินอาหารและระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ควรเลือกนมเปรี้ยวที่มีโพรไบโอติกส์ที่ยังมีชีวิตอยู่ เช่น นมเปรี้ยวที่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์
3. ชีสบางประเภท
ชีสมีหลายประเภท แต่ละประเภทก็จะมีขั้นตอนการผลิตและระยะเวลาการผลิตที่แตกต่างกันไป วิธีสังเกตชีสที่มีโพรไบโอติกส์คือ ฉลากผลิตภัณฑ์ของชีสชนิดนั้นจะต้องระบุไว้ว่า “live cultures” หรือ “active cultures” ชีสที่มีโพรไบโอติกส์ เช่น มอสซาเรลล่า เชดด้า คอทเทจ เกาด้า เป็นต้น
อย่างไรก็ดี นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์นมเท่านั้น ซึ่งจะเป็นผลิตภัณฑ์จากยี่ห้อไหน แบรนด์ใด ก็จะขึ้นอยู่กับการคัดสรรจากตัวผู้บริโภคเองเพราะแต่ละแบรนด์ก็จะมีความแตกต่างในเรื่องของคุณภาพและกรรมวิธีการผลิตด้วยนั่นเอง
BUTTERFLY Pro Plus Drinking Yogurt จาก Butterfly Organic
โยเกิร์ตสูตรใหม่จาก Butterfly Organic ที่จะทำให้การทานพรีไบโอติกส์และ โพรไบโอติกส์ ของคุณง่ายขึ้น เนื่องด้วยมีคุณสมบัติหลายอย่างที่นอกจากจะช่วยในเรื่องของการกระตุ้นการขับถ่ายและให้ประโยชน์ต่างๆ แก่ร่างกายแล้ว ก็ยังช่วยให้ผู้บริโภคมีความสะดวกในการรับประทานจุลินทรีย์ทั้ง 2 ในคราวเดียวอีกด้วย (สามารถสั่ง Pro Plus Drinking Yogurt ผ่าน LINE OFFICIAL Butterfly Organic ได้แล้ววันนี้ )
โดยจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ โพรพลัส โยเกิร์ตพร้อมดื่ม ตรา บัตเตอร์ฟลาย
- มีชนิดจุลินทรีย์ที่ดีมากถึง 7 สายพันธุ์ (เชื้อโพรไบโอติกส์* 5 สายพันธุ์ + เชื้อโยเกิร์ต 2 สายพันธุ์)
- มีปริมาณจุลินทรีย์มีชีวิต 40,000 หมื่นล้านตัวต่อขวด (Live Active Cultures > 40,000 CFU/Bottle)
- มีทั้ง Probiotic และ Prebiotic (ใช้ Inulin Fiber (Fructo oligosaccharide) เป็น Prebiotic)
- ผสมระหว่าง Probiotic Yogurt กับ Super Food Super Fruits เช่น พุทราจีน , Acai berry และ Kale
- ใช้น้ำผึ้งแท้เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาล
ท้ายที่สุด การรับประทานโยเกิร์ต หรือ นมที่มีโพรไบโอติกส์ (Probiotics) ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหากับการรับประทานนมวัวทั่วไปเพราะเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะถูกย่อยด้วยจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ของเราซึ่งจะเติบโตได้มากขึ้น และผลิตสารที่ดีต่อสุขภาพขึ้นภายในลำไส้นั่นเอง ดังนั้น ผู้บริโภคจึงควรรับประทานไว้เพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน
FAQ : คำถามที่พบบ่อย
โพรไบโอติกส์ (Probiotics) เป็นจุลินทรีย์ขนาดเล็กซึ่งจัดเป็นกลุ่มจุลินทรีย์ชนิดดี สามารถพบได้ในลำไส้ หรืออาหาร เช่น นมเปรี้ยว โยเกิร์ต กิมจิ มิโสะ เป็นต้น ผู้เชี่ยวชาญด้านทางเดินอาหาร ให้คำจำกัดความว่า โพรไบโอติกส์ คือ “จุลินทรีย์ที่มีชีวิต เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะทำให้สุขภาพดีในภาวะต่างๆ โดยเป็นจุลินทรีย์ที่มีคุณสมบัติทนต่อกรดและด่าง สามารถจับที่บริเวณผิวของเยื่อบุลำไส้แล้วผลิตสารต่อต้านหรือกำจัดเชื้อจุลินทรีย์ชนิดอื่นๆ รวมถึงก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพได้”