สารบัญบทความ
Toggleนมคีโต นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับใครหลายคนที่ต้องการทานอาหารคีโตอย่างจริงจังและกลายเป็นที่นิยมของผู้คนมากขึ้น แล้วรู้หรือไม่ว่านมชนิดนี้อุดมไปด้วยสารอาหารอะไรบ้าง ดื่มทุกวันได้มั้ย แล้วควรดื่มปริมาณเท่าไหร่ถึงจะพอกับความต้องของร่างกายในแต่ละวัน วันนี้เราจะมาไขทุกข้อสงสัยเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกดื่มนมคีโตที่เหมาะกับคุณมากที่สุด
นมคีโต (Keto Milk) คืออะไร
เป็นนมที่อุดมไปด้วยไขมันสูง แต่มีคาร์โบไฮเดรตและแคลอรีในปริมาณที่ต่ำ, มีโปรตีนจากถั่ว, วิตามิน B1, วิตามิน B2, วิตามิน E และแคลเซียม แถมยังปราศจากส่วนผสมของน้ำตาล, คอเลสเตอรอล และแลคโตส นมคีโตแตกต่างจากนมทั่วไปตรงที่นมโคมีคาร์โบไฮเดรตปริมาณสูง แถมยังเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้ในบางคนได้ด้วยเช่นกัน
นมคีโต ทำมาจากอะไร
ในปัจจุบันมีนมคีโตให้เลือกดื่มตามวัตถุดิบของนม ได้แก่ นมอัลมอนด์, นมพิสตาชิโอ และนมโพรไบโอติกส์ ซึ่งนมแต่ละชนิดผลิตจากวัตถุดิบและมีคุณสมบัติแตกต่างกันดังนี้
นมอัลมอนด์
เป็นนมที่ผลิตจากเมล็ดอัลมอนด์ เกิดจากการนำถั่วอัลมอนด์มาแช่น้ำข้ามคืนเพื่อให้เมล็ดพองตัวและทำให้น้ำซึมเข้าสู่ตัวเมล็ด จากนั้นจึงนำไปปั่นให้ละเอียดและบีบเอาน้ำออกมา กลายเป็นนมอัลมอนด์ที่มีรสและกลิ่นเฉพาะตัว นมอัลมอนด์อุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไขมันไม่อิ่มตัว, แคลเซียม, วิตามิน D, วิตามิน E ปราศจากน้ำตาลแล็คโทส และมีปริมาณน้ำตาลต่ำ (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความ : ความเสี่ยงใน “นมอัลมอนด์” โทษที่มากกว่าคุณประโยชน์ หากเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน)
นมพิสตาชิโอ
เป็นนมที่ผลิตจากถั่วพิสตาชิโอ เกิดจากการนำถั่วพิสตาชิโอมาเติมน้ำ, ปั่น, ต้มและคั้นเอาน้ำออกมาเหมือนกระบวนการทำนมอัลมอนด์ นมพิสตาชิโออุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวสูง ซึ่งเป็นไขมันดีต่อระบบสมองและหัวใจ, วิตามิน B6, ฟอสฟอรัส, แมกนีเซียม
นมโพรไบโอติกส์
เป็นนมที่ผลิตจากกระบวนการพิเศษด้วยวิธีออร์แกนิก เริ่มจากการเพาะพันธุ์และเลี้ยงดูสัตว์โดยปราศจากสารฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตและยาปฏิชีวนะ รวมถึงอาหารที่ใช้ในการเลี้ยงสัตว์ก็ต้องเป็นอาหารธรรมชาติที่มาจากกระบวนการเกษตรอินทรีย์เท่านั้น นอกจากนี้ยังต้องเลี้ยงดูอย่างธรรมชาติเพื่อให้สัตว์ มีความเป็นอิสระ ช่วยให้สัตว์เจริญเติบโตสมบูรณ์เต็มที่และมีสุขภาพอนามัยที่ดีตามธรรมชาติ
นมโพรไบโอติกส์มีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่าน้ำนมโคทั่วไป เพราะอุดมไปด้วย “โพรไบโอติกส์” จุลินทรีย์ดีที่ช่วยเสริมสร้างระบบขับถ่ายและระบบย่อยอาหารให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีกรดไขมัน โอเมก้า 3, 6 และ CLA มากเป็นพิเศษ ไม่มีการปรุงแต่งสารเคมีต่างๆ ทั้งสารเพิ่มความหนืดและสารเพิ่มความคงตัว ไม่ผสมนมผงหรือน้ำ ทำให้รสชาติเข้มข้น หอมมัน จากรสชาติของนมออร์แกนิคจริงๆ
นมคีโต กินยังไง
แนะนำให้ควรดื่มก่อนหรือระหว่างมื้ออาหาร ซึ่งเป็นช่วงที่กระเพาะมีค่าความเป็นกรดต่ำ ทำให้น้ำย่อยทำลายโพรไบโอติกส์ได้น้อยลง และเข้าไปสู่ลำไส้ใหญ่ได้อย่างปลอดภัย แต่หากดื่มนมที่มีโพรไบโอติกส์หลังมื้ออาหาร อาจทำให้น้ำย่อย, แอลกอฮอล์ หรือยาบางชนิดเข้าไปทำลายจุลินทรีย์ได้ง่ายและทำให้ร่างกายได้รับจุลินทรีย์ชนิดนี้ได้ไม่เต็มที่
ประโยชน์ของการดื่มนมคีโต
- เสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก
- บำรุงระบบประสาทและสมอง
- ช่วยรักษาสมดุลของระบบทางเดินอาหารและลำไส้
- ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบบเฉียบพลัน
- ลดภาวะแพ้น้ำตาลในนม (แลคโตส)
นมคีโตเหมาะกับใคร
- คนทั่วไปที่ต้องการลดน้ำหนัก
- คนทั่วไปที่ต้องการดูแลสุขภาพ
- ผู้ที่มีอาการแพ้นมวัว
- ผู้ที่มีไขมันสะสมมาก
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก เช่น โรคกระดูกพรุน, โรคข้อเสื่อม
แล้วถ้ากินอาหารคีโต ใส่นมได้ไหม ต้องงดนมตามที่หลายคนบอกจริงหรือไม่ ?
ที่จริงแล้วคุณสามารถดื่มนมได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องเลือกดื่มนมถั่ว ได้แก่ นมอัลมอนด์, นมพิสตาชิโอ, นมวอลนัท และนมโพรไบโอติกส์เท่านั้น เนื่องจากนมวัวหรือนมถั่วเหลืองทั่วไป จะคาร์โบไฮเดรตในสัดส่วนที่มากกว่านมถั่วต่างๆ ดังนั้นการดื่มนมคีโตที่ช่วยลดน้ำหนักตามที่ใครหลายคนต้องการแล้วยังช่วยเพิ่มไขมันดีแก่ร่างกาย โดยที่ไม่โหลดคาร์บจนเกินไปด้วย ทั้งนี้ขอแนะนำให้เลือกรสจืดหรือหวานน้อยซึ่งช่วยคุมคาร์บได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากอาหารและเครื่องดื่มคีโตอย่างนมแล้ว มีของทานเล่นอย่างอื่นที่เป็นคีโตมั้ย
สำหรับใครที่เริ่มเบื่อกับมื้ออาหารและนมแล้ว ยังมีโยเกิร์ตคีโตที่มีโพรไบโอติกส์ให้ลองทานกันดู โดยโยเกิร์ตคีโตที่ดีจะต้องผลิตภัณฑ์จากน้ำนมโคโดยไม่ใช้สารเคมีและยาปฏิชีวนะใดๆ ทั้งกับพื้นที่และตัววัวที่นำน้ำนมมาผลิตเป็นโยเกิร์ต ทางฟาร์มจะต้องปล่อยให้วัวออกกำลังกายอย่างอิสระบนผืนหญ้าออร์แกนิกที่โปร่งสบาย และต้องพิถีพิถันทุกขั้นตอนจนสามารถผลิตเป็นโยเกิร์ตที่มีคุณภาพและผ่านเกณฑ์ของ USDA ด้วย
ในส่วนของกระบวนการหมักน้้นจะเหมือนกับโยเกิร์ตตรงที่ใช้วัตถุดิบเป็นน้ำนมวัว จากนั้นจะหมักด้วยเชื้อจุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัส, บัลการิคัส และสเตรปโตคอกคัส เทอร์โมฟิลัส ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่ผลิตกรดแลคติก (Lactic Acid Bacteria) เกิดเป็นโยเกิร์ตพร้อมดื่มที่มีกรดแลคติกธรรมชาติโดยไม่ปรับแต่งกรดแต่อย่างใด ทำให้ได้คุณประโยชน์สูง ทั้งช่วยปรับสมดุลระบบขับถ่าย ขับถ่ายง่ายขึ้น กระตุ้นระบบย่อยอาหารและเร่งกระบวนการเผาผลาญ นอกจากนี้ยังมีแคลเซียมสูงจากนมโคแท้ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรงยิ่งขึ้นด้วย
สำหรับท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้และสนใจผลิตภัณฑ์นมแบบออแกนิคสามารถที่จะสั่งซื้อกับทางเราได้ เราได้รับมาตรฐาน USDA เป็นเจ้าเดียวที่ได้รับในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค
ทำไมต้อง นมโพรไบโอติกส์ จาก Butterfly Organic
เพราะเรา Butterfly Organic เข้าใจกลุ่มคนที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างจริงจังแต่ทำได้ยากและกลุ่มผู้ที่มีอาการแพ้นมวัวจริงๆ เราจึงตั้งใจคิดค้นผลิตภัณฑ์คุณภาพดีด้วยกรรมวิธีออร์แกนิคทุกขั้นตอน ปราศจากสารพิษทั้งระบบ จนเกิดเป็นนมและโยเกิร์ตเจ้าแรกและเจ้าเดียวในไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานออร์แกนิกระดับสากลจาก USDA
นมของ Butterfly Organic ส่งตรงมาจากฟาร์มวัว จังหวัดสระบุรี โดยไม่ใช้สารเคมีและยาปฏิชีวนะใดๆ ทั้งในพื้นที่และตัววัวที่ได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถันมายาวนานนับ 10 ปี และมีใบรับรองระดับสากล เพื่อสุขภาพที่ดี Butterfly Organic พร้อมส่งมอบผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคดีๆ ให้แก่ผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นนมสด, นมเปรี้ยว และโยเกิร์ตโพรไบโอติกส์ตามซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำแล้ววันนี้ หรือสามารถสั่งสินค้าผ่าน LINE OFFICIAL Butterfly Organic ได้เลย