สารบัญบทความ
Toggleหลาย ๆ ธุรกิจนอกจากการใส่ใจในเรื่องของการพัฒนา ผลิตสินค้า และการตลาดแล้ว เรื่องของการจัดเก็บสินค้าก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยยังมีสินค้าบางประเภทที่ต้องมองหาคลังสินค้าห้องเย็นเพื่อช่วยทั้งในเรื่องของพื้นที่การจัดเก็บ และเรื่องของการคุมอุณหภูมิให้คงคุณภาพสินค้า ในตอนนี้คลังสินค้าที่มาพร้อมระบบความเย็นนั้นมีส่วนสำคัญที่ช่วยธุรกิจลดต้นทุนทั้งด้านงบประมาณ พร้อมทั้งเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีอะไรที่ผู้ประกอบการควรรู้เพิ่มเติมก่อนตัดสินใจใช้งานคลังสินค้าประเภทนี้บ้าง ถึงเวลามาเก็บข้อมูลไปวางแผนธุรกิจกันแล้ว
คลังสินค้าห้องเย็น คืออะไร ?
คลังสินค้าห้องเย็น หมายถึง พื้นที่จัดเก็บสินค้าประเภทต่าง ๆ ที่มาพร้อมระบบในการควบคุมอุณหภูมิภายในพื้นที่ให้เป็นไปตามที่กำหนด และเหมาะสมกับสินค้าประเภทต่าง ๆ ซึ่งตลอดเวลาจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิตามบรรยากาศภายนอกเด็ดขาด เพื่อที่จะรักษาคุณภาพสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐานที่เหล่าผู้ประกอบการต้องการ
โดยสำหรับคลังเย็นนั้นจะมาพร้อมระดับความเย็นที่ต่ำกว่า 25 องศาฯ ไปจนถึงระดับติดลบ คลังสินค้าห้องเย็นมีให้เลือกหลากหลายแบบไม่ว่าจะเป็นแบบตู้คอนเทนเนอร์ ห้องแช่แข็งเฉียบพลัน ห้องเย็นเก็บรักษาสินค้า ห้องเย็นเก็บยารักษาโรค ห้องเย็นแช่ผักผลไม้ ห้องเย็นแช่เนื้อสัตว์อาหารทะเล และห้องเย็นสำหรับแช่นมพร้อมทั้งผลิตภัณฑ์จากนม
สินค้าอะไรบ้างที่ควรเก็บใน คลังสินค้าห้องเย็นให้เช่า
เรามาดูภาพรวมของสินค้าที่นิยมจัดเก็บในคลังสินค้าห้องเย็นกันดีกว่า ว่ามีสินค้าอะไรบ้างที่ถ้าคุณเลือกจะเป็นผู้ผลิตและประกอบการแล้วไม่ควรพลาดที่จะมองหาคลังสินค้าประเภทนี้เอาไว้ใช้งาน
- ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น นม โยเกิร์ต ชีส นมจากพืช เนย
- สินค้าที่มีลักษณะเป็นขี้ผึ้ง เช่น เทียนไข ยาหม่อง
- ฟิล์มถ่ายภาพ
- งานศิลปะ
- ผัก ผลไม้ และพืชชนิดต่าง ๆ
- เครื่องสำอาง เช่น ลิปสติก ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
- ยา เวชภัณฑ์ วิตามิน อาหารเสริม
- อาหารและเครื่องดื่ม เช่น เนื้อสัตว์ ไวน์ น้ำผลไม้ อาหารทะเล
5 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเลือกคลังสินค้าห้องเย็นให้เช่า
เมื่อวางแผนแล้วว่าสินค้าของคุณนั้นต้องการคลังสินค้าห้องเย็น มีอะไรบ้างที่คุณจะต้องใช้เพื่อการพิจารณาเลือกคลังสินค้าที่เหมาะ และตอบโจทย์สินค้า พร้อมทั้งธุรกิจของคุณมากที่สุด มาเก็บข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในการเลือกกันได้เลย
1. คลังสินค้าห้องเย็นมีบริการแบบไหนบ้าง
การมองหาว่าคลังสินค้าที่คุณสนใจนั้นมีบริการเสริมอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวก และเพิ่มมาตรฐานการจัดเก็บหรือไม่ ช่วยให้การทำงานของคุณง่ายขึ้น อย่างถ้าคุณผลิตโยเกิร์ต และต้องการลดต้นทุนบริการเหล่านี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก
บริการเสริมที่ได้รับความนิยมมากสำหรับห้องเย็นเก็บสินค้า คือ การจัดเก็บสินค้าในพื้นที่เขตปลอดอากร (Free Zone) การบริหารคลังสินค้า การบริการท่าเปลี่ยนถ่ายสินค้า บริการขนส่งกระจายสินค้า บริการซอฟต์แวร์สำหรับการจัดการสินค้า รวมไปถึงการบริการให้คำปรึกษาด้านโลจิสติกส์ ทั้งหมดเป็นบริการที่คุ้มค่า ช่วยประหยัดเวลา เพิ่มความสะดวก และยังช่วยลดต้นทุนโดยรวมได้อีกด้วย
2. คลังสินค้าห้องเย็นมีอุณหภูมิที่เหมาะกับสินค้าหรือไม่
แม้ว่าจะอยู่ในทำเลที่เหมาะ บริการเสริมที่ใช่ แต่ยังไม่มีอุณหภูมิการจัดเก็บที่เหมาะกับสินค้าของคุณก็นับเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้นคุณต้องตรวจสอบให้ดีก่อนว่าสินค้าของคุณนั้นต้องการจัดเก็บที่อุณหภูมิไหน ตัวอย่างของอุณหภูมิที่เหมาะสมกับสินค้า เช่น การแช่แข็งเนื้อสด ควรอยู่ที่ -40 องศาฯ การเก็บผักผลไม้รวมถึงผลิตภัณฑ์จากนมต่าง ๆ ควรอยู่ที่ 0-5 องศาฯ หรือการเก็บไวน์ควรอยู่ในอุณหภูมิ 20-25 องศาฯ เป็นต้น
3. คลังสินค้าห้องเย็นมีใบอนุญาตอะไรบ้าง
เรื่องนี้เป็นเรื่องของมาตรฐานที่จะทำให้มั่นใจว่าคลังสินค้าที่คุณเลือกจะสามารถจัดเก็บสินค้าของคุณให้ถูกต้องเหมาะสมตามมาตรฐาน ซึ่งจะต้องมีการรับรองจากหน่วยงานต่าง ๆ และมาตรฐานสากลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เช่น ISO, Halal, GMP, EST, HACCP คุณควรตรวจสอบให้เจอกับมาตรฐานที่เหมาะกับสินค้าของคุณก่อนตัดสินใจเลือกคลังสินค้า โดยเฉพาะคลังสินค้าที่รับผลิตสินค้าให้กับคุณได้ด้วย เรื่องมาตรฐานเหล่านี้เป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้เด็ดขาด
4. คลังสินค้าห้องเย็นมีเทคโนโลยีที่น่าสนใจหรือไม่
การเจอกับคลังสินค้าที่มาพร้อมเทคโนโลยี นวัตกรรมที่น่าเชื่อถือ มีการพัฒนาอัปเดตใหม่เสมอนั้นมีส่วนช่วยให้ระบบธุรกิจของคุณดำเนินการไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีส่วนช่วยลดต้นทุนให้ผู้ผลิตได้ดี ระบบที่น่าสนใจที่สุดในตอนนี้คือ Automated Storage Retrieval System (ASRS) หรือระบบจัดเก็บสินค้าอัตโนมัติ ซึ่งช่วยลดต้นทุนให้กับคลังสินค้า และแน่นอนว่าจะส่งผลมาถึงผู้ใช้บริการอย่างคุณที่จะได้รับค่าบริการที่ถูกลงอีกด้วย
5. คลังสินค้าห้องเย็นมีระยะเวลาในการจัดเก็บสินค้ามีแบบไหนบ้าง
ในส่วนนี้ถือว่าเป็นการคำนวณต้องทุนเพื่อจัดเก็บได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น คุณจะต้องตรวจสอบว่าคลังเหล่านั้นจัดเก็บสินค้าให้คุณได้นานเท่าไร คิดราคาแบบไหน สอดคล้องกับงบประมาณของธุรกิจหรือไม่ เพราะถ้ามีกำหนดเวลาที่ไม่สอดคล้อง กระจายสินค้าไม่ทัน แน่นอนว่าจะมีความเสียหายตามมาอย่างแน่นอน
คลังสินค้าห้องเย็น มีกี่ประเภทให้คุณเลือกบ้าง
เมื่อรู้จักกับคลังสินค้าห้องเย็น และจุดที่ต้องโฟกัสก่อนเลือกกันไปแล้ว เรามาปิดท้ายกันดีกว่าว่าคลังสินค้าห้องเย็นมีกี่ประเภทให้คุณได้เลือกบ้าง บอกเลยว่าข้อมูลส่วนนี้จะเป็นประโยชน์กับการวางแผนธุรกิจของคุณอย่างแน่นอน โดยหลัก ๆ แล้วห้องเย็นจะมีให้คุณได้เลือกความเย็น 5 ระดับ ดังนี้
ห้องแช่แข็งลมเย็นจัด
ห้องเย็นประเภทนี้จะมาพร้อมอุณหภูมิ -35 องศาฯ เป็นการแช่แข็ง ทำให้สินค้าเย็นเร็ว โดยที่เซลล์ไม่เสียหาย ซึ่งเหมาะกับการแช่อาหารทะเลมากเป็นพิเศษ เพราะจะไม่ทำให้เกล็ดน้ำแข็งภายในเซลล์ละลายจนเซลล์ช้ำ
ห้องแช่แข็ง
ห้องนี้จะเหมาะกับการจัดเก็บสินค้าเป็นเวลานาน ๆ มาพร้อมอุณหภูมิ -5 ถึง -25 องศาฯ เป็นอุณหภูมิที่ต่ำกว่าจุดเยือกแข็งของตัวสินค้า โดยสามารถเก็บได้นาน 8-10 เดือนเลยทีเดียว
ห้องเย็นเก็บรักษาสินค้า
ห้องนี้เหมาะกับการใช้เพื่อเก็บสินค้าที่ผ่านการแช่แข็งมาแล้ว โดยสินค้าจะต้องมีอุณหภูมิต่ำกว่าหรือเท่ากับห้องเก็บสินค้า มาพร้อมอุณหภูมิ -25 องศาฯ
ห้องแช่เย็นเฉียบพลัน
ห้องนี้มาพร้อมอุณหภูมิ -10 ถึง 2 องศาฯ เหมาะกับสินค้าที่ต้องการลดอุณหภูมิ เพื่อที่จะรอในกระบวนการต่อไป และยังช่วยคุมเชื้อแบคทีเรีย เอนไซม์ย่อยได้อีกด้วย ห้องนี้เหมาะกับเนื้อสัตว์
ห้องเย็นพักสินค้า
ปิดท้ายกันด้วยห้องเย็นที่มาพร้อมอุณหภูมิ -5 ถึง 10 องศาฯ เอาไว้ใช้ในการช่วยลดอุณหภูมิของอากาศภายนอกที่มีอุณหภูมิสูง เหมาะกับการพักสินค้า หรือรอกระจายสินค้า
Butterfly Organic พร้อมให้บริการพื้นที่เก็บและกระจายสินค้า มาตรฐานระดับสากล
เมื่อคุณกำลังมองหาคลังสินค้าแช่เย็นที่เข้าใจเรื่องของการจัดเก็บผลิตภัณฑ์นมมากที่สุด แนะนำเลยว่า Butterfly Organic เป็นบริษัทที่คุณไม่ควรพลาด เพราะมาพร้อมกับมาตรฐานของคลังสินค้า พ่วงมาด้วยบริการตัดส่งแบบแช่เย็น ทำให้สินค้าถึงมือลูกค้าแบบสดใหม่ รสชาติดี ได้มาตรฐานอย่างแน่นอน นอกจากนี้เรายังพร้อมให้บริการ OEM เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นมแบบครบวงจรอีกด้วย
หากสนใจสามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ 034 110 496 (สำนักงานใหญ่) หรือที่ LINE กันได้เลย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ คลังสินค้าห้องเย็น
คลังสินค้าที่มาพร้อมระบบความเย็นนั้นมีอุณหภูมิให้คุณได้เลือกเพื่อให้เหมาะกับสินค้าแต่ละประเภทมากที่สุดตั้งแต่ -40 องศาฯ ไปจนถึง 25 องศาฯ
ประโยชน์ที่คุณซึ่งเป็นผู้ผลิต และผู้ประกอบการจะได้จากคลังสินค้าประเภทนี้มากที่สุดคือ ประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บสินค้า ประหยัดต้นทุนในการลงทุนสร้างห้องเย็น และยังได้ประโยชน์เพิ่มเติมจากบริการเสริมของแต่ละคลังที่จะช่วยให้การจัดการสินค้า และกระจายสินค้าเป็นเรื่องที่ง่ายดายมากขึ้น