สารบัญบทความ
Toggle.
โยเกิร์ตจากพืชเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วง 2-3 ปีให้หลังจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 เนื่องจากผู้บริโภคหลาย ๆ คนหันมาสนใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกันอาจยังมีหลาย ๆ คนที่ยังไม่รู้จักว่าเจ้าโยเกิร์ตชนิดนี้คืออะไร และมีคุณประโยชน์สู้โยเกิร์ตจากนมวัวได้หรือไม่ ในบทความนี้ Butterfly Organic มีคำตอบ
.
โยเกิร์ตจากพืช คืออะไร
.
โยเกิร์ตจากพืชเป็นทางเลือกเพื่อทดแทนการรับประทานโปรตีนจากเนื้อสัตว์ หรือผลิตภัณฑ์นม ปราศจากแล็กโทส และกลูเตน ไม่มีคอเลสเตอรอล เป็นไขมันดี มีส่วนช่วยในการรักษาสมดุลของปริมาณไขมันในเลือด มีสารกลุ่มไอโซฟลาโวน (Isoflavones) ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ย่อยง่าย และมีใยอาหารสูง ที่ช่วยในการขับถ่าย ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย โดยมักทำมาจากถั่วเหลือง อัลมอนด์ ข้าวโอ๊ต เป็นต้น
.
โยเกิร์ตจากพืช มีกี่ชนิด
.
โยเกิร์ตที่ถูกสกัดมาจากพืชนั้น สามารถยกตัวอย่างได้หลายชนิด เช่น
.
โยเกิร์ตถั่วเหลือง
.
โยเกิร์ตนมถั่วเหลือง (Soy Yogurt) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการเติมจุลินทรีย์ที่มีชีวิต (โพรไบโอติก) ลงไปในน้ำนมถั่วเหลืองที่ทําจากถั่วเหลือง 100% จึงทําให้ได้รับคุณประโยชน์จากถั่วเหลืองที่มาพร้อมจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์กับร่างกาย และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง
.
โยเกิร์ตอัลมอนด์
.
แม้ว่าอัลมอนด์จะมีแคลอรีและไขมันสูง แต่ก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพโดยรวมของคุณ ไขมันส่วนใหญ่ในอัลมอนด์ไม่อิ่มตัว และอาจช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลของคุณ นอกจากนี้อัลมอนด์ยังอุดมไปด้วยวิตามินอีซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ไขมันในอัลมอนด์ช่วยให้อิ่ม ซึ่งหมายความว่าอัลมอนด์สามารถช่วยคุณควบคุมน้ำหนักได้
.
โยเกิร์ตข้าวโอ๊ต
.
ข้าวโอ๊ตเป็นธัญพืชที่นิยมรับประทานกันมาก เพราะอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารและโปรตีน ทั้งยังมีสารอาหารสำคัญอื่น ๆ เช่น แมงกานีส ฟอสฟอรัส ซีลีเนียม วิตามินอี วิตามินบี 1 เป็นต้น ซึ่งเมื่อนำมาสกัดเป็นโยเกิร์ตที่มีแบคทีเรียและจุลินทรีย์ตัวดี จึงทำให้โยเกิร์ตจากพืชชนิดนี้มีคุณประโยชน์นานับประการ เช่น เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย รักษาอาการท้องเสีย รักษาโรคแผลในกระเพาะอาหาร ป้องกันเชื้อโรคที่เป็นอันตรายต่อลำไส้ ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง ฆ่าเชื้อราในช่องคลอด ลดกลิ่นปาก ฯลฯ
.
โยเกิร์ตจากมะพร้าว
.
โยเกิร์ตจากมะพร้าว เป็นผลิตภัณฑ์พร้อมดื่มในรูปแบบของเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ทำจากมะพร้าวไม่มีคอเลสเตอรอล ไม่มีส่วนผสมของนม (Non-daily) เหมาะสำหรับผู้แพ้นม มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ช่วยในเรื่องการขับถ่าย และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในร่างกาย ดีต่อผู้รักสุขภาพ และผู้บริโภคมังสวิรัติ
.
โยเกิร์ตวีแกนคืออะไร ต่างจากโยเกิร์ตจากพืชหรือไม่
.
โยเกิร์ตวีแกนเป็นโยเกิร์ตสำหรับคนที่ทานมังสวิรัติ โดยเป็นโยเกิร์ตที่ทำมาจากนมพืช เช่น นมอัลมอนด์ หรือนมถั่วเหลือง ดีสำหรับคนที่แพ้แล็กโทสด้วยเหมือนกัน ซึ่งโยเกิร์ตชนิดนี้เป็นทางเลือกเพื่อทดแทนการรับประทานโปรตีนจากเนื้อสัตว์ หรือผลิตภัณฑ์นมนั่นเอง
.
ทั้งนี้โยเกิร์ตชนิดนี้ยังปราศจากแล็กโทส และกลูเตน ไม่มีคอเลสเตอรอล เป็นไขมันดี มีส่วนช่วยในการรักษาสมดุลของปริมาณไขมันในเลือด มีสารกลุ่มไอโซฟลาโวน (Isoflavones) ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ย่อยง่าย และมีใยอาหารสูง ที่ช่วยในการขับถ่าย ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย โดยมักทำมาจากถั่วเหลือง อัลมอนด์ ข้าวโอ๊ต เป็นต้น จึงกล่าวโดยสรุปได้ว่าโยเกิร์ตทั้ง 2 ชนิดนี้คือโยเกิร์ตชนิดเดียวกัน
5 เหตุผลที่คนเลือกกินโยเกิร์ตจากพืช
.
รวม 5 เหตุผลดี ๆ ที่คนบางกลุ่มเลือกกินมังสวิรัติและโยเกิร์ตจากพืช แทนการกินเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์
.
1.เหตุผลด้านสุขภาพ
.
เพราะผู้คนต้องการเลือกกินอาหารที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เนื่องจากผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์บางอย่าง อาจก่อให้เกิดอาการแพ้และการอักเสบในร่างกายได้
.
2.เหตุผลด้านจริยธรรม
.
เพราะพวกเขาคำนึงถึงจริยธรรมในเรื่องของการฆ่าสัตว์ ที่เกิดจากการรับประทานเนื้อสัตว์ และมลพิษอื่น ๆ ที่จะตามมา
.
3.เหตุผลด้านสังคม
.
พวกเขาเลือกกินมังสวิรัติตามค่านิยมของไอดอล ดารา หรือคนดัง ที่พวกเขาชื่นชอบ ซึ่งมักจะเป็นคนที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่
.
4.เหตุผลด้านศาสนา
.
บางศาสนามีการบังคับให้รับประทานอาหารมังสวิรัติ เช่น ที่ประเทศอินเดีย เป็นต้น
.
5.เหตุผลด้านเศรษฐกิจ
.
เนื่องจากพืชมีราคาถูกกว่าเนื้อสัตว์ การเลือกรับประทานมังสวิรัติจึงประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าการรับประทานอาหารตามปกติ
.
โยเกิร์ตจากพืช มีคุณประโยชน์ด้อยไปกว่าโยเกิร์ตธรรมดาหรือไม่?
.
จากที่กล่าวไปว่า โยเกิร์ตจากพืชเป็นทางเลือกเพื่อทดแทนการรับประทานโปรตีนจากเนื้อสัตว์ หรือผลิตภัณฑ์นม ปราศจากแล็กโทส และกลูเตน ไม่มีคอเลสเตอรอล เป็นไขมันดี มีส่วนช่วยในการรักษาสมดุลของปริมาณไขมันในเลือด ซึ่งคุณประโยชน์ดังกล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ที่เราจะสามารถได้รับจากการรับประทานโยเกิร์ตจากพืช ซึ่งหากกล่าวกันตามจริงโยเกิร์ตจากพืช ไม่ได้ด้อยไปกว่าโยเกิร์ตธรรมดาแม้แต่น้อย แม้อาจจะมีเรื่องโปรตีนหรือสารบางประการที่ผู้บริโภคอาจได้ไม่ครบถ้วนหรือน้อยกว่าการรับประทานโยเกิร์ตจากนมวัว แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการรับประทานโยเกิร์ตแต่ละแบบด้วย เช่น หากอยากกินเพื่อสุขภาพ รสธรรมชาติ ไขมันน้อย ก็ให้เลือกรับประทานโยเกิร์ตจากพืช หากอยากสร้างกล้ามเนื้อ ด้วยการกินอาหารที่มีโปรตีนก็เลือกกินโยเกิร์ตจากนมสัตว์ เป็นต้น
.
โยเกิร์ตจากพืช ยี่ห้อไหนดี
.
โยเกิร์ตจากพืชที่มีจำหน่ายกันอยู่มากมายในท้องตลาดนั้น เป็นแค่ทางเลือกในการบริโภค ไม่ใช่อาหารหลัก และถ้าจะให้ดีต้องรู้จักวิธีเลือกซื้อด้วย ซึ่งคงเป็นการยากที่จะบอกผู้บริโภคตรง ๆ ว่ายี่ห้อไหนดี เพราะแต่ละคนจะมีความชื่นชอบที่แตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะยี่ห้อไหน ผู้บริโภคควรยึดหลักนี้ไว้ในการซื้อ คือ
- ควรเลือกซื้อโยเกิร์ตที่มีวันผลิตใกล้เคียงกับวันที่ซื้อมากที่สุด หรือให้วันหมดอายุเหลือเวลานานหลายวัน
- เลือกซื้อรสธรรมชาติดีกว่าชนิดที่มีการปรุงแต่ง จะได้รับคุณค่าทางโภชนาการมากกว่า
และแม้จะเป็นโยเกิร์ตจากพืช แต่หลาย ๆ แบรนด์อาจมีการเพิ่มน้ำตาล การอ้างว่าไขมันต่ำหรือไม่มีไขมันไม่ได้หมายความว่าจะไม่ให้พลังงานแก่ร่างกาย โดยโยเกิร์ต 1 ถ้วยที่นำมาทดสอบให้พลังงานระหว่าง 80-150 กิโลแคลอรี ดังนั้นเราจึงต้องคำนวณปริมาณแคลอรีที่ได้รับจากอาหารทั้งหมดในแต่ละวันด้วย
ท้ายที่สุดในปัจจุบันเทรนด์ใหม่ ๆ กำลังมาแรง และที่กำลังเป็นไวรัลไปทั่วโลก คือแนวคิด “Clean eating” “Healthy living” “Sustainability” “Ethic” รวมเป็นไอเดียที่ว่า “อยู่อย่างสุขภาพดีต้องกินให้สุขภาพดี” เพื่อที่จะทำอย่างนั้นได้ อาหารที่มีผักและธัญพืชเป็นหลัก จึงกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคนรักสุขภาพ
.
โยเกิร์ตจากพืช จาก Butterfly Organic
.
ฟาร์ม Butterfly Organic ของเรานอกจากจะมุ่งเน้นการพัฒนานมออร์แกนิค (Organic Milk) แล้วยังมีความมุ่งมั่นที่จะผลิตผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับนมและโยเกิร์ตจากธัญพืชและถั่วต่าง ๆ ให้ออกมามีคุณภาพด้วย ด้วยขั้นตอนการผลิตจากธรรมชาติ โดยปลอดจากสารเคมี จนได้รับการการันตีจากสถาบันมาตรฐานออร์แกนิค USDA (NOP) จากประเทศสหรัฐฯ ดังนั้นผู้บริโภคสามารถมั่นใจได้ว่า นมแพลนต์เบสของเรานั้นมีทั้งคุณภาพ สะอาด และปลอดภัยอย่างแน่นอน
.
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ร้านค้าชั้นนำทั่วไป หรือ ช่องทางการติดต่อแบบ Direct Contact ของทางแบรนด์นั้น ๆ ที่ผู้บริโภคเลือก