สารบัญบทความ
Toggleการได้รับสารอาหารสำคัญจากนมที่มีแคลเซียมสูง ถือเป็นจุดประสงค์หลักที่ใคร ๆ ต่างก็พากันดื่มนม ดังนั้นการเลือกดื่มนมให้ถูกประเภทและถูกผิดวิธีจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพจากการดื่มนมผิดประเภทและผิดวิธีอีกด้วย แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่านมประเภทไหนควรดื่มเวลาไหน ปริมาณเท่าไหร่บ้าง บทความนี้เรามีคำตอบ
ทำไมเราถึงต้องดื่มนม
นมเป็นอาหารที่ผลิตออกมาจากเต้านมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีลักษณะเป็นของเหลวสีขาวขุ่นที่อุดมไปด้วยสารอาหารจำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะเด็กแรกเกิด รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้แทนนม ยกตัวอย่างเช่น นมถั่วเหลือง นมอัลมอนด์ นมข้าวโพด เป็นต้น
น้ำนมประกอบไปด้วยน้ำมากถึง 85% มีไขมันนม (Butter Fat) เป็นหยดเล็ก ๆ กระจายตัวอยู่ในน้ำ แต่ไม่ละลายเป็นเนื้อเดียวกับน้ำและไม่รวมตัวกันจนเกิดการแยกชั้น, มีโปรตีนและน้ำตาล ทำหน้าที่สร้างเนื้อเยื่อ, เลือด และกระดูก นอกจากนี้ยังมีฟอสโฟลิพิด (Phospholipid), คอเรสเตอรอล (Cholesterol), แคโรทีนอยด์ (Carotenoid) รวมทั้งวิตามินที่ละลายในไขมัน ได้แก่ วิตามิน A, D, E และ K
นมทำมาจากอะไรได้บ้าง
1. นมจากสัตว์
เป็นนมที่ได้จากการรีดเต้านมของสัตว์ ได้แก่ นมวัว, นมแพะ, นมแกะ เป็นต้น โดยน้ำนมที่รีดหรือ นมดิบ (Raw Milk or Unpasteurized Milk) ยังมีเชื้อโรคและแบคทีเรียปะปนอยู่ จึงต้องนำไปผ่านการพาสเจอร์ไรส์ หรือนำนมไปผ่านความร้อนสูงในอุณหภูมิ 72 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 – 45 วินาที ซึ่งจะช่วยยืดอายุนมได้มากถึง 2 – 3 สัปดาห์ หรือพาสเจอร์ไรส์ด้วยวิธี UHT (Ultra-High Temperature) ที่ใช้ความร้อนสูงมากถึง 138 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 2 วินาที ซึ่งจะช่วยยืดอายุนมได้นานถึง 9 เดือน
2. นมจากพืช
หรือที่ใครหลายคนรู้จักกันในชื่อว่า “นมทางเลือก” เป็นนมที่ผลิตจากพืชแตกต่างชนิดตามความต้องการของผู้ผลิต เหมาะสำหรับผู้ที่อยากดื่มนมแต่แพ้แลคโตสในนมสัตว์ นอกจากนี้นมจากพืชยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อน เนื่องจากใช้พื้นที่และทรัพยากรในการเลี้ยงพืชคุ้มค่ากว่า รวมถึงปล่อยก๊าซเรือนกระจกระหว่างกระบวนการน้อยกว่าการเลี้ยงสัตว์เพื่อผลิตน้ำนม นมประเภทนี้มีปริมาณแคลเซียมและโปรตีนน้อยกว่านมจากสัตว์ (ยกเว้นนมถั่วเหลือง) ปัจจุบันมีนมจากพืชที่หลากหลายขึ้นจากชนิดของพืชที่แตกต่างกัน ดังนี้
นมถั่วเหลือง ผลิตจากถั่วเหลือง มีโปรตีนสูง มีปริมาณแคลเซียมแตกต่างกันตามปริมาณที่กำหนดไว้ของผู้ผลิตแต่ละราย บางรายอาจมีส่วนผสมของน้ำมันพืชหรือนมผง ทั้งนี้ขอแนะนำให้เลือกสูตรเสริมแคลเซียมเพื่อให้ร่างกายได้รับแคลเซียมที่มากขึ้น |
นมถั่วเปลือกแข็ง ผลิตจากถั่วเปลือกแข็งชนิดต่าง ๆ ให้พลังงานไม่สูงมาก มีไขมันอิ่มตัวในปริมาณต่ำ มีแคลเซียมระดับหนึ่ง แต่มีโปรตีนค่อนข้างน้อย |
นมข้าวโพด ผลิตจากธัญพืชหลากชนิด จัดเป็นนมที่มีไขมันน้อยที่สุด มีปริมาณน้ำตาลสูง โปรตีนต่ำ ไม่มีแคลเซียม ในปัจจุบันผู้ผลิตหลายรายผลิตออกมาทั้งแบบนมข้าวโพดแท้ 100% และนมข้าวโพดผสมถั่วเหลือง |
นมอัลมอนด์ ผลิตจากการนำถั่วอัลมอนด์มาแช่น้ำข้ามคืนเพื่อให้เมล็ดอัลมอนด์พองตัวและทำให้น้ำซึมเข้าสู่เมล็ด จากนั้นจึงนำอัลมอนด์ไปปั่นให้ละเอียดและบีบน้ำออกมาเป็นน้ำอัลมอนด์หรือนมอัลมอนด์ที่มีกลิ่นและรสชาติเฉพาะ นมอัลมอนด์อุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญ เช่น แคลเซียม, วิตามิน D, วิตามิน E ฯลฯ |
เปรียบเทียบแคลเซียมในนมและคุณค่าทางโภชนาการ
ระหว่างนมจากสัตว์และนมจากพืช
1. นมจากสัตว์
- นมวัว ให้พลังงาน 133.44 kcal ให้โปรตีน 6.61 กรัม ให้ไขมันรวม 7.78 กรัม ให้ไขมันอิ่มตัว 4.89 กรัม ให้น้ำตาล 8.34 กรัม และให้แคลเซียม 204.67 มิลลิกรัม
- นมวัวสูตรปราศจากแลคโตส ให้พลังงาน 120.37 kcal ให้โปรตีน 6.19 กรัม ให้ไขมันรวม 7.59 กรัม ให้ไขมันอิ่มตัว 4.63 กรัม ให้น้ำตาล 5.15 กรัม และให้แคลเซียม 274.07 มิลลิกรัม
- นมกระบือ ให้พลังงาน 198 kcal ให้โปรตีน 8 กรัม ให้ไขมันรวม 15 กรัม ให้ไขมันอิ่มตัว 8.4 กรัม ให้น้ำตาล 8.8 กรัม และให้แคลเซียม 382 มิลลิกรัม
- นมแพะ ให้พลังงาน 105.26 kcal ให้โปรตีน 6.32 กรัม ให้ไขมันรวม 5.26 กรัม ให้ไขมันอิ่มตัว 3.68 กรัม ให้น้ำตาล 7.37 กรัม และให้แคลเซียม 84.21 มิลลิกรัม
2. นมจากพืช
- นมแมคคาเดเมีย ให้พลังงาน 130 kcal ให้โปรตีน 3 กรัม ให้ไขมันรวม 8 กรัม ให้ไขมันอิ่มตัว 1.5 กรัม ให้น้ำตาล 6 กรัม และให้แคลเซียม 64 มิลลิกรัม
- นมพิสตาชิโอ ให้พลังงาน 70 kcal ให้โปรตีน 1.5 กรัม ให้ไขมันรวม 3.50 กรัม ให้ไขมันอิ่มตัว 0.5 กรัม ให้น้ำตาล 3.5 กรัม และให้แคลเซียม 180 มิลลิกรัม
- นมอัลมอนด์ ให้พลังงาน 70.91 kcal ให้โปรตีน 1.55 กรัม ให้ไขมันรวม 3.18 กรัม ให้ไขมันอิ่มตัว 0.34 กรัม ให้น้ำตาล 2.49 กรัม และให้แคลเซียม 217.2 มิลลิกรัม
- นมวอลนัท ให้พลังงาน 60 kcal ให้โปรตีนน้อยกว่า 1 กรัม ให้ไขมันรวม 5 กรัม ให้ไขมันอิ่มตัว 0.5 กรัม ให้น้ำตาล 0 กรัม และให้แคลเซียม 120 มิลลิกรัม
ข้อดี-ข้อเสียของนมจากสัตว์และนมจากพืช
1. นมจากสัตว์
- เป็นแหล่งแคลเซียมธรรมชาติ
- มีสารอาหารสำคัญอย่างโปรตีนและกรดอะมิโนมากถึง 18 ชนิด
- อุดมไปด้วยน้ำตาลแลคโตส อันเป็นอาหารชั้นดีของจุลินทรีย์ชนิดดีในร่างกาย
- อุดมไปด้วยเกลือแร่และวิตามิน
- บางคนอาจแพ้แลคโตสและโปรตีนในนมวัว ดังนั้นควรหมั่นสังเกตอาการหลังดื่มนมวัว
2. นมจากพืช
- เป็นแหล่งแคลเซียมธรรมชาติ
- เป็นแหล่งโปรตีนสำหรับผู้ที่ไม่กินเนื้อสัตว์
- สำหรับนมข้าว ไม่มีแลคโตสและคอลเรสเตอรอล
- สำหรับนมถั่วเหลือง มีโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตเทียบเท่ากับนมจากสัตว์ ที่สำคัญไม่มีน้ำตาลแลคโตส
- สำหรับนมถั่วเหลืองและนมมะพร้าว อุดมไปด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจน เหมาะสำหรับผู้หญิงที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือน
นมที่วางขายในปัจจุบันมีกี่แบบ
- นมสด (Fresh Milk) เป็นนมสดบรรจุกระป๋อง โดยทั่วไปเป็นนมโค 100% ตามฉลากที่ผู้ผลิตบอกไว้
- นมพร่องมันเนย (Low Fat Fresh Milk) เป็นนมที่ผ่านการแยกมันเนยออกบางส่วน ทำให้มี พลังงานต่ำ และมีปริมาณไขมันเล็กน้อย เหมาะสำหรับผู้สูงอายุและผู้ที่มีไขมันในเส้นเลือดสูง
- นมขาดมันเนย (Non Fat Milk) เป็นนมที่ผ่านการแยกมันเนยออกเกือบทั้งหมด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเลี่ยงไขมัน
- นมแปลงไขมัน (Filled Milk) เป็นนมพร้อมดื่มที่ผ่านการผสมไขมันชนิดอื่นแทนมันเนยเดิม ได้แก่ น้ำมันปาล์ม หรือน้ำมันมะพร้าว
- นมปรุงแต่ง (Flavored Milk) เป็นนมวัวหรือนมผงที่ผ่านการผลิตและปรุงแต่งกลิ่น สี รสชาติ เพื่อให้ทานง่าย
- นมเปรี้ยว และโยเกิร์ต (Drinking Yoghurt & Yoghurt) เป็นนมที่ผ่านการหมักด้วยจุลินทรีย์ชนิดดี ทั้งนี้อาจปรุงแต่งรสชาติ กลิ่น และสีได้ด้วยเช่นกัน
- นมข้น (Condensed Milk) แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ นมข้นจืด เป็นนมผงขาดมันเนยละลาย น้ำในอัตราส่วนน้อยกว่านมสดทั่วไป และนมข้นหวาน เป็นนมที่ผ่านการระเหยเอาน้ำออกเพียงบางส่วน หรืออาจละลายนมผงขาดมันเนยเพื่อผสมกับไขมันเนยและเติมน้ำตาลปริมาณ 45% นมชนิดนี้จึงมีปริมาณน้ำตาลสูง แถมยังมีโปรตีนน้อยกว่านมสดทั่วไป
นมแคลเซียมสูงดีต่อร่างกายอย่างไร
ต้องเข้าใจก่อนว่าร่างกายของแต่ละคนมีความต้องการแคลเซียมในปริมาณที่แตกต่างกัน ดังนี้
- วัยเด็ก ควรได้รับปริมาณแคลเซียมอยู่ที่ 600 มก./วัน
- วัยรุ่น ควรได้รับปริมาณแคลเซียมอยู่ที่ 1,000 – 1,500 มก./วัน
- วัยผู้ใหญ่ควรได้รับปริมาณแคลเซียมอยู่ที่ 800 – 1,000 มก./วัน
- ผู้หญิงตั้งครรภ์ควรได้รับปริมาณแคลเซียมอยู่ที่ 1,500 มก./วัน
- วัยผู้สูงอายุในวัยทอง ควรได้รับปริมาณแคลเซียมอยู่ที่ 1,500 – 2,000 มก./วัน
ดังนั้นการดื่มนมในปริมาณที่เพียงพอและถูกประเภท นอกจากจะเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกแล้ว ยังป้องกันความเสื่อมต่าง ๆ ในร่างกายได้ดีอีกด้วย ในปัจจุบันเทรนด์ดูแลสุขภาพยังคงมีแนวโน้มว่าจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ใครหลายคนหันใส่ใจสุขภาพตัวเองมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ผู้ผลิตต้องให้ความสำคัญและหันมาผลิตนมที่มีดีทั้งปริมาณแคลเซียมสูงและอุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพไปในตัวด้วย โดยนมแคลเซียมสูงที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลตัวเองนั้น ควรเป็นนมไขมันต่ำหรือนมพร่องมันเนย และนมคีโต เนื่องจากอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
- โปรตีน ช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพของระบบย่อยอาหาร ช่วยให้ย่อยอาหารได้ง่ายขึ้น ลดปัญหาท้องอืดท้องเฟ้อ
- แร่ธาตุ ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ, ระบบประสาท และการทำงานของเซลล์ในร่างกาย ลดความเสี่ยงต่อการเกิดกล้ามเนื้ออ่อนแรง
- วิตามิน ช่วยให้ระบบหลอดเลือดและสมองทำงานได้อย่างเต็มที่ ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ, มะเร็ง และเบาหวาน
แคลเซียม ประโยชน์ที่มากกว่าการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
นอกจากโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุแล้ว แคลเซียมยังเป็นสารอาหารสำคัญที่มีอยู่ในทั้งนมจากพืชและสัตว์อีกด้วย โดยคุณประโยชน์ของแคลเซียม มีดังนี้
1. ควบคุมความดันโลหิต
การได้รับแคลเซียมในปริมาณที่เพียงพอต่อร่างกายจะช่วยควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ อีกทั้งป้องกันความเสี่ยงต่อภาวะความดันโลหิตสูง เนื่องจากแคลเซียมจะกระตุ้นกล้ามเนื้อให้บีบตัวได้ดี ส่งผลให้หลอดเลือดหัวใจทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความดันอยู่ในระดับปกติ
2. บรรเทาอาการปวดประจำเดือน
การทานแคลเซียมก่อนวันมีประจำเดือน ช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนและลดอาการอารมณ์แปรปรวนได้ดี สำหรับผู้หญิงที่ปวดท้องประจำเดือนเป็นประจำ ควรทานแคลเซียมวันละ 1,500 มิลลิกรัมก่อนถึงวันรอบเดือนมาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อให้อาการปวดประจำเดือนทุเลาลง
3. แก้อาการนอนไม่หลับ
แคลเซียมช่วยให้นอนหลับสบายมากขึ้น ทั้งนี้ควรเลือกดื่มนมจืดที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาลเท่านั้น เพื่อป้องกันโรคอ้วนตามมา
4. ลดความเสี่ยงต่อมะเร็งลำไส้ใหญ่
การทานแคลเซียมอย่างเพียงพอเป็นประจำจะช่วยลดโอกาสเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เนื่องจากแคลเซียมสามารถยับยั้งการแบ่งเซลล์ผิดปกติให้น้อยลง โอกาสที่จะเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่จึงลดลง
ทำไมต้องนมไขมันต่ำ แคลเซียมสูงจาก Butterfly Organic
เพราะเรา Butterfly Organic เข้าใจกลุ่มคนที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างจริงจังแต่ทำได้ยากและกลุ่มผู้ที่มีอาการแพ้นมวัว เราจึงตั้งใจคิดค้นผลิตภัณฑ์นมออร์แกนิกที่มีคุณภาพดีด้วยกรรมวิธีออร์แกนิกทุกขั้นตอน ปราศจากสารพิษทั้งระบบ จนเกิดเป็นนมและโยเกิร์ตเจ้าแรกและเจ้าเดียวในไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานออร์แกนิกระดับสากลจาก USDA
นมไขมันต่ำของ Butterfly Organic ส่งตรงมาจากฟาร์มวัว จังหวัดสระบุรี กระบวนการผลิตทั้งหมดไม่มีการใช้สารเคมีและยาปฏิชีวนะใด ๆ ทั้งในพื้นที่และตัววัวที่ได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถันมายาวนานนับ 10 ปี และมีใบรับรองระดับสากล เพื่อสุขภาพที่ดี Butterfly Organic พร้อมส่งมอบผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคดี ๆ ให้แก่ผู้บริโภค ทั้งนมสด, นมเปรี้ยว และโยเกิร์ตโพรไบโอติกส์ตามซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำแล้ววันนี้ หรือสามารถสั่งสินค้าผ่าน LINE OFFICIAL Butterfly Organic ได้เลย