butterfly organic

ดื่มนมจากฟาร์มออร์แกนิกดีอย่างไร ทำไมในปัจจุบันจึงเป็นที่นิยม

Butterfly Organic

Butterfly Organic

ออร์แกนิคฟาร์ม เรียกได้ว่าเป็นคำที่คนคุ้นหูและให้ความสนใจมากขึ้นกับคำว่า “stable type” ซึ่งไม่ว่าจะหันหน้าไปทางไหนก็เราต้องได้ยินคำนี้หรือเห็นคำนี้อยู่ตามสินค้าหลายๆ ประเภทเสมอ โดยเฉพาะเครื่องอุปโภค บริโภค ที่จะสังเกตได้ว่าจะมีคำว่าออร์แกนิกพ่วงท้ายไว้ด้วยตลอด อย่างไรก็ตาม ในเมื่อปัจจุบันคำว่าออร์แกนิกไม่ได้ถูกจำกัดไว้เพียงแค่ใช้ในกลุ่มคนรักสุขภาพเท่านั้น แต่กลายเป็นคำที่แมสจนหลายคนในยุคปัจจุบันให้ความสำคัญมากขึ้น ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้ หรือ อาหาร ผู้บริโภคจึงมักจะรู้สึกดีและมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าปลอดสารพิษมากกว่า

อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึง ฟาร์มออร์แกนิก สิ่งที่ขาดไปไม่ได้นอกจากผักผลไม้แล้วก็คือ “นม” ที่หลายๆ คนมักจะนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ ซึ่งต้องบอกก่อนว่านมจะมีคุณภาพหรือไม่นั้น กระบวนการผลิตนมจากฟาร์ม ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญ ซึ่งหากต้องผลิตให้นมออกมาเป็นนมออร์แกนิก ต้องสะอาดและปลอดภัยแค่ไหน แต่ละขั้นตอนของการเลี้ยงวัวต้องมีมาตรฐานเท่าไหร่จึงจะเรียกว่า ออร์แกนิก ในบทความนี้ Butterfly Organic มีคำตอบมาฝาก

ออร์แกนิค คือ…

คำว่า ออร์แกนิค หากแปลตรงตัวจะหมายถึง “สาขาวิชาเคมีที่ว่าด้วยเคมีอินทรีย์หรือการศึกษาที่เป็นองค์ประกอบพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต” ซึ่งจากความหมาย ออร์แกนิค ก็คือผลิตภัณฑ์ที่ปลูกโดยวิธีเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นการปลูกโดยใช้วิธีควบคุมไม่ให้มีการปนเปื้อนของสารเคมีในทุกขั้นตอนการผลิต เช่น การใช้ปุ๋ยที่ทำจากธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมีใดๆในการปลูก นอกจากนั้นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค ยังถูกควบคุมจนถึงขบวนการแปรรูปโดยให้มีการเจือปนของสารเคมีน้อยที่สุดนั่นเอง

มาตรฐานของ “ฟาร์มออร์แกนิค” ที่พึงมีก่อนที่การวางจำหน่าย

การรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการรับรองจากองค์กรที่แต่งตั้งโดยรัฐบาลของแต่ละประเทศเท่านั้น โดยมีตราประทับบนฉลากอย่างชัดเจนว่าได้รับรองจากประเทศใด หรือกลุ่มประเทศใด หากไม่มีการรับรองผู้ผลิตไม่มีสิทธิ์ใช้คำว่า ออร์แกนิคบนฉลากสินค้าเพื่อทำการโฆษณา ซึ่งที่เป็นเช่นนี้ก็เพื่อความไว้วางใจจากผู้บริโภคที่สามารถเชื่อใจฟาร์มหรือแบรนด์นั้นๆ ได้ว่าสินค้าสะอาดและไร้สารตกค้างจริงๆ

อาหารออร์แกนิค มีอะไรบ้าง?

อาหารออร์แกนิกที่มาจากฟาร์มนั้นมีหลายชนิดเลยทีเดียว เช่น

ผักออร์แกนิก

เป็นพืชผักที่เพาะปลูกด้วยวิธีธรรมชาติร้อยเปอร์เซ็นต์ คำว่า ‘ออร์แกนิก’ หมายถึง อินทรีย์ แปลความว่า จะต้องงดเว้นการใช้สารเคมีสังเคราะห์ในทุกขั้นตอนของการเพาะปลูกหรือผลิตพืชผัก และจะต้องเพาะปลูกตามฤดูกาลที่เหมาะสมของพืชแต่ละชนิด เพื่อให้พืชเจริญงอกงามได้ดีตามธรรมชาติ สามารถใช้สมุนไพรแทนสารพิษในการกำจัดศัตรูพืช หรือใช้ปุ๋ยหมักอินทรีย์แทนปุ๋ยเคมี

เนื้อสัตว์ออร์แกนิก

เนื้อสัตว์ออร์แกนิค จะแตกต่างจากเนื้อสัตว์ทั่วไปคือ มีข้อบังคับกำหนดให้สัตว์ต้องได้รับการเลี้ยงดูในสภาพความเป็นอยู่ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมตามธรรมชาติ การให้อาหารและอาหารสัตว์ต้องเป็นออร์แกนิค 100% และไม่ได้รับยาปฏิชีวนะหรือฮอร์โมนใดๆ หรือจะเรียกให้เข้าใจว่าเป็นเนื้อสัตว์ปลอดสารก็ได้ และด้วยกรรมวิธีในการเลี้ยงจึงทำให้ได้รับความนิยมมากขึ้นจากคนที่รักสุขภาพ ต้องการบริโภคเนื้อสัตว์ที่ปลอดภัย ไม่ต้องกังวลเรื่องสารตกค้างที่อาจสะสมในร่างกาย

ผลผลิตต่างๆ จากสัตว์

เช่น ไข่ นม ฯลฯ ซึ่งผลผลิตที่เกิดขึ้นจะนับว่าเป็นอาหารออร์แกนิกได้ก็ต่อเมื่อสัตว์ที่ผลิตถูกเลี้ยงด้วยวิถีธรรมชาติที่ได้มาตรฐานที่แท้จริง กล่าวคือการเพาะพันธุ์และเลี้ยงดูสัตว์เหล่านั้นจะต้องปราศจากสารฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตและยา ปฏิชีวนะ รวมถึงอาหารในการเลี้ยงดูสัตว์ ก็ต้องเป็นอาหารธรรมชาติที่มาจากกระบวนการเกษตรอินทรีย์เช่นกัน นอกเหนือจากนี้ยังต้องมีการเลี้ยงดูอย่างเป็นไปตามธรรมชาติเพื่อมอบเสรีภาพ ให้กับสัตว์ ไม่กักขังหน่วงเหนี่ยวหรือทรมานสัตว์ซึ่งช่วยให้สัตว์มีการเจริญเติบโตที่ สมบูรณ์ พร้อมกับสุขภาพอนามัยที่ดีตามธรรมชาติ

ฟาร์มวัว ออร์แกนิค แหล่งกำเนิดนมสะอาด ปราศจากสารเคมี

ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับผู้ที่ไม่เคยบริโภคนมจากธรรมชาติและออร์แกนิก ที่จะไม่ทราบว่าทำไมราคาถึงค่อนข้างแพงกว่านมทั่วไป แต่หากสำรวจเบื้องหลังอย่างลึกซึ้ง ราคานี้แลกมาด้วยต้นทุนความพิถีพิถันและการคำนึงถึงเพื่อนร่วมโลกทั้งสัตว์และสิ่งแวดล้อมที่มากขึ้นอีกระดับ

เพราะในการทำฟาร์มโคนมนั้น สิ่งสำคัญคือการเลี้ยงดูทั้งสัตว์และพืชที่ให้นมแบบดังกล่าว ต้องไม่ฉีดสารเคมี ไม่ให้อาหารเม็ดจากโรงงานที่แม้มีราคาถูกกว่า แต่ในระยะยาวจะทำลายสิ่งแวดล้อมและอาจตกค้างอยู่ในน้ำนม หลงเหลือจนถึงร่างกายผู้บริโภคและไม่เป็นมิตรต่อร่างกายเสียเท่าไร ด้วยสาเหตุนี้ฟาร์มวัวแบบออร์แกนิกจึงเป็นสถานที่สำคัญในการผลิตนมวัวที่สะอาด ปลอดภัย และมีคุณภาพต่อผู้บริโภคนั่นเอง

การเลี้ยงวัวนม ต้องมีมาตรฐานอย่างไรสำหรับการผลิตนมออร์แกนิก

โดยทั่วไปแล้วการตัดสินว่าฟาร์มไหนเป็นออร์แกนิคแท้ๆ นั้นจะเริ่มต้นตั้งแต่การตรวจสอบฟาร์มที่เลี้ยงโคนมเลยก็ว่าได้ โดยฟาร์มโคนมออร์แกนิคนั้นจะมีกฎเหล็กที่สำคัญ เริ่มตั้งแต่บริเวณที่ตั้งของฟาร์มว่า จะต้องอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ดี มีอากาศสดชื่น โอบล้อมด้วยธรรมชาติ มีต้นน้ำบริสุทธิ์ที่ไหลผ่าน โดยพื้นที่แถวนั้นจะต้องไม่เกิดจากการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าต้นน้ำและต้องไม่ทำลายระบบนิเวศดั้งเดิม

โดยดินบริเวณที่ตั้งก็จะต้องไร้สิ่งปนเปื้อนของสารเคมีทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง สารกำจัดศัตรูพืช สารปรุงแต่ง และสารดัดแปลงพันธุ์กรรมทุกชนิด โดยค่าความสะอาดของดินจะต้องปลอดเชื้อมายาวนานมากกว่า 3 ปีขึ้นไปและต้องตรวจทุก 6 เดือน – 1 ปี โดยการตรวจค่าความสะอาดของดินบริเวณนั้นจะต้องตรวจอย่างพิถีพิถันโดยผู้เชี่ยวชาญ ดินต้องมีความสมบูรณ์มีความหลากหลายทางชีวภาพเพื่อให้เหมาะกับการเพาะปลูกหญ้า หรือพืชที่ใช้เป็นอาหารวัว และต้องมีพื้นที่กว้างขวางให้วัวสามารถเดินได้ พื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับเลี้ยงวัวก็คือเฉลี่ย 3 ไร่ต่อวัว 1 ตัว

ทั้งนี้ วัวที่เลี้ยงจะต้องเป็นวัวนมสายพันธุ์ดีเยี่ยมที่มีความสมบูรณ์แข็งแรง มีสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับการเลี้ยงในสภาพอากาศร้อนชื้น ต้องไม่ป่วยเป็นโรค และไม่มีโรคติดต่อด้วยนั่นเอง

การเลี้ยงวัวแบบธรรมชาติเพื่อผลิตนมออร์แกนิก มีลักษณะสำคัญอย่างไรบ้าง ?

สำหรับการดูแลวัวนมแบบธรรมชาติหรือออร์แกนิกนั้นต้องอาศัยความประณีต ใจเย็น ไม่เร่งรัดฝืนธรรมชาติ ถ้าเป็นนมจากสัตว์มักมีการเลี้ยงแบบปล่อยให้เดินตามทุ่งหญ้าสดที่ปลูกเอง วัวควายแพะเหล่านั้นได้ออกกำลังกายไม่อุดอู้แบบบรรยากาศอุตสาหกรรม ซึ่งจากที่กล่าวไปในข้างต้น ฟาร์มวัวที่เลี้ยงแบบออร์แกนิกแท้ๆ จะปล่อยให้วัวได้เดินเล่นเพื่อคลายเครียดและออกกำลัง บางฟาร์มก็เปิดเพลงให้ฟังด้วยเพื่อผ่อนคลายให้วัวอารมณ์ดี ซึ่งปัจจัยต่างๆ ดังกล่าวล้วนเป็นสิ่งที่ส่งผลต่อคุณภาพนมทั้งสิ้น ดังนั้นขั้นตอนการเลี้ยงวัวจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ทั้งนี้ควรมีโรงเรือนคอกวัวที่มีมาตรฐาน ทั้งในเรื่องของสถานที่ตั้ง ขนาด พื้นคอก หลังคา และรางอาหารให้เหมาะสมและเพียงพอสำหรับวัวของฟาร์มด้วย

Grass fed milk คืออะไร?

Grass Fed Milk หรือในอีกชื่อหนึ่งคือ นมออร์แกนิก เป็นนมจากฝูงโคนมที่เลี้ยงบนทุ่งหญ้าอินทรีย์โดยไม่ใช้ยาปฏิชีวนะใดๆ หรือกล่าวคือเป็นวัวที่ถูกเลี้ยงแบบออร์แกนิก 100% ซึ่งนอกจากจะเป็นนมที่สะอาดและมีคุณภาพสูงแล้ว ยังมีคุณค่าด้านโภชนาการที่สูงด้วย โดยนมที่ได้มานั้นมี Omega3 และ CLA จากธรรมชาติที่สูงมากรสชาติของมันก็จะเป็นกลาง ๆ ไม่ได้หวานมาก โดยใครที่ทานนมวัวแล้วรู้สึกคาวก็สามารถลองดื่มนมชนิดนี้ได้ เพราะทานง่ายแถมยังอร่อยมากอีกด้วย และด้วยเหตุผลนี้เองจึงทำให้นมชนิดนี้ได้รับความนิยมในปัจจุบัน

ฟาร์มวัวนม ของ Butterfly Organic พิถีพิถันตั้งแต่การเลี้ยงวัวตลอดจนส่งถึงมือผู้บริโภค

สำหรับใครที่อาจจะยังไม่ทราบว่า “นมออร์แกนิค” และ “นมทั่วไป” แตกต่างกันอย่างไร? และหลายๆ คนอาจจะเข้าใจคำว่า “ออร์แกนิค” หมายถึงสินค้าปลอดสารพิษอย่างเดียวหรือไม่? ต้องขออนุญาตอธิบายว่า สินค้าออร์แกนิคนั้นจะไม่ใช่การหมายถึงสินค้าที่ปลอดสารพิษเพียงอย่างเดียว แต่หากต้องการเป็นสินค้าออร์แกนิคที่แท้จริงได้นั้น จะต้องผ่านมาตรฐานอะไรรับรองบ้าง

เริ่มต้นที่วัวสายพันธุ์ที่ทางแบรนด์ Butterfly Organic ใช้ในการผลิตน้ำนมก็จะมีหลักๆ อยู่ 3 สายพันธุ์ได้แก่

  • โคนมสายพันธุ์โฮลสไตน์ฟรีเซี่ยน (Holstein Friesian) หรือ “วัวขาวดำ” เป็นสายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงมากที่สุด จุดเด่นคือ เลี้ยงง่าย เพาะพันธุ์ง่าย และมีอัตราการให้น้ำนมสูง โปรตีนในน้ำนมสูง ปริมาณไขมันในน้ำนมวัวจะมีอยู่ประมาณ 3.0 – 3.5 เปอร์เซ็นต์
  • โคนมสายพันธุ์บราวน์สวิส (Brown Swiss) หรือ “วัวน้ำตาล” สายพันธุ์นี้มีจุดเด่นคือ สามารถทนความร้อนได้ทำให้เลี้ยงในเขตอากาศร้อนชื้นหรือในประเทศไทยได้ดี น้ำนมมีโปรตีนสูง ปริมาณไขมันในน้ำนมวัวจะมีอยู่ประมาณ 4.0 เปอร์เซ็นต์
  • โคนมสายพันธุ์บราห์มัน (Brahman) เป็นวัวที่เลี้ยงดูง่าย เติบโตได้ทุกสภาพอากาศ มีอัตราผลิตนมเยอะ มีโปรตีนสูง

ซึ่งแม่วัวของเรานั้นเป็นวัวที่ต้องได้รับการคัดเลือกมาอย่างดีที่สุด เน้นการเลี้ยงแบบธรรมชาติ คือ ให้วัวปล่อยให้เดินในฟาร์มได้อย่างเสรีโดยไม่กักขังบนผืนหญ้าออร์แกนิค อาหารที่เลี้ยงวัวเราก็จะเน้นให้วัวทานหญ้า-พืชออร์แกนิคที่เราปลูกเองทั้งหมด ซึ่งสายพันธ์ุหญ้าที่เราเลือกให้วัวทานก็จะต้องเป็นสายพันธุ์ที่มีโปรตีน-ไฟเบอร์สูง เช่น หญ้ากินนีสีม่วง (Purple Guinea Grass) หญ้าแพงโกล่า (Pangola Grass) หญ้ารูซี่ (Ruzi Grass) และกระถินอ่อนที่อุดมไปด้วยกรดโอเมก้า 3 ที่ช่วยกระตุ้นให้แม่วัวผลิตนมได้เยอะและนมมีคุณภาพสูง นอกจากนี้เรายังมีการพาวัวเดินเปลี่ยนแปลงหญ้าทุกๆ 10 วันเพื่อให้วัวสามารถได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน

และนอกจากเราจะพิถีพิถันการเลือกอาหารที่ดีที่สุดให้แม่วัวทานแล้ว แม่วัวของเรายังต้องได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด รอบตัววัวจะต้องไม่มีสารเคมีและยาปฏิชีวนะใดๆ ได้อาบน้ำทุกวัน ทำให้แม่วัวของเราอารมณ์ดี สะอาดอยู่เสมอ ไม่เจ็บป่วยง่าย ไม่เป็นโรค มีสุขภาพแข็งแรง ส่งผลให้น้ำนมของเรามีสารอาหารครบถ้วนและมีคุณภาพสูงที่สุด มีรสชาติอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งในบางครั้งรสชาติของนมอาจจะมีเปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้วแต่ขวด เนื่องจากรสชาติของนมจะขึ้นอยู่กับอาหารที่วัวทานเข้าไป มั่นใจได้เลยว่าเป็นออร์แกนิค 100% ไม่ผ่านการปรับแต่งรสชาติ อร่อย ปลอดภัยได้รับมาตรฐานรับรองระดับโลก

สำหรับท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้และสนใจผลิตภัณฑ์นมแบบออแกนิคสามารถที่จะสั่งซื้อกับทางเราได้ เราได้รับมาตรฐาน USDA เป็นเจ้าเดียวที่ได้รับในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค

The process of producing organic milk

สำหรับขั้นตอนการผลิตสินค้าในเครือ Butterfly Organic จะต้องมีการคัดกรองอย่างสุดความสามารถ คือ ช่วงก่อนรีดนมวัว เราจะดูแลแม่วัวอย่างพิถีพิถัน โดยวัวที่เรานำมารีดจะต้องมีอายุอยู่ที่18 เดือนขึ้นไปถึง 15-16 ปี ต้องไม่ให้แม่วัวเครียดเพื่ออาจจะส่งผลต่อคุณภาพของน้ำนม ต้องอาบน้ำวัว หลังรีดนมก่อนกระบวนการพาสเจอร์ไรส์ก็จะต้องมีการตรวจคุณภาพน้ำนมก่อนทุกครั้งว่ามีระดับโปรตีนในนมเข้มข้นมากน้อยแค่ไหน ในกรณีที่น้ำนมรอบนั้นมีความเข้มข้นน้อยกว่าระดับมาตรฐานฟาร์ม เราจะยกเลิกสินค้ารอบนั้นๆ ทันที

จากขั้นตอนการเลือกสายพันธุ์วัว การเลี้ยง มาตลอดจนการผลิต ทำให้ Butterfly Organic มีความโดดเด่นต่างจากฟาร์มอื่นๆ และได้รับการการันตีจาก USDA (U.S. Department of Agriculture) ให้ผ่านการตรวจสอบและได้เป็นสินค้าออร์แกนิกที่ได้มาตรฐานเป็นแห่งแรกของไทยและหนึ่งเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ท้ายที่สุด สิ่งที่ Butterfly Organic ยังคงมุ่งมั่นทำต่อไปคือการคัดสรรสิ่งที่ดีและทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้สินค้าของเรา ปลอดภัย มีคุณภาพที่ดีและพร้อมส่งต่อถึงมือผู้บริโภคอย่างความรักและใส่ใจทุกขวดเพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจและวางใจในตัวเราเสมอสำหรับผู้ที่สนใจสั่งสินค้าและดูสินค้าของเราเพิ่มเติม สามารถติดตามผ่านไลน์ได้ที่นี่ (คลิก)

บทความล่าสุด

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ Privacy Policy และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า