butterfly organic

นมข้าวโอ๊ตมีดีอย่างไร ทำไมถึงกลายเป็นกระแส

Butterfly Organic

Butterfly Organic

นมข้าวโอ๊ต ถือเป็นนมที่ไม่มีใครไม่รู้จัก เนื่องจากในปัจจุบัน เทรนด์การทานอาหารรักสุขภาพกำลังได้รับความนิยมนั่นเอง ซึ่งหนึ่งในประเภทของการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่ไม่พูดถึงไม่ได้นั่นก็คือ Plant Base (แพลนต์เบส) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่หลายๆ คนนิยมรับประทาน ไม่แพ้มังสวิรัติละวีแกนเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอาจมีหลายๆ คนยังไม่คุ้นเคยกับการทานแบบ Plant Base มากนัก ดังนั้น ก่อนที่เราจะเข้าไปทำความรู้จักกับนมโอ๊ต เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า Plant Base คืออะไร และนมจากข้าวโอ๊ตเกี่ยวอะไรกับการทานอาหารประเภทนี้ Butterfly Organic มีคำตอบ

แพลนต์เบสต์ คือ

การกิน แพลนต์เบสคือ รูปแบบการกินที่เน้นพืชเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ ถั่ว เมล็ดพืช น้ำมัน ธัญพืชไม่ขัดสี ดูแล้วไม่ต่างกับวีแกน แต่การกินในรูปแบบนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเป็นวีแกนเสมอไป เพราะหัวใจสำคัญของ Plant Based นั้นอยู่ที่การเลือกกินอาหารที่มีสัดส่วนของพืชผักมากกว่าเนื้อสัตว์ มุ่งไปที่อาหารไขมันต่ำ เส้นใยสูง อาหารจากพืช เน้นประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าหลักจริยธรรม

ดังนั้น การกินแบบ Plant Based  จึงมีความหลากหลายพอสมควร ด้วยหลักการพื้นฐานที่สามารถยืดหยุ่นได้ตามใจผู้กิน ดังนั้น การแปะป้ายว่า “Plant-Based” จึงออกมาได้ทั้งในรูปแบบของอาหารที่จากพืชทั้งหมด หรืออาจจะเป็นอาหารจากพืชเป็นส่วนใหญ่ พร้อมกับกินเนื้อสัตว์เล็กๆ น้อยๆ ควบคู่ไปด้วยก็ได้ ในอีกแง่หนึ่งนั้นยังหมายถึง อาหารจากพืชที่ไม่ผ่านการแปรรูปหรืออาหารที่แปรรูปน้อยที่สุดได้เช่นกัน

การกินแบบ แพลนต์เบส มีลักษณะอย่างไร?

การกินอาหารแพลนต์เบส เป็นการกินที่โฟกัสหลักๆ ไปที่พืช ซึ่งไม่ใช่แค่ผลไม้ หรือผักเพียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงถั่วทุกชนิด เมล็ดพันธ์ุ น้ำมัน ธัญพืช โดยการกินลักษณะนี้ไม่ใช่การกินมังสวิรัติ ที่ไม่กินอาหารจำพวกเนื้อหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมเลย แต่เป็น การกินอาหารที่สัดส่วนเป็นพืชมากกว่าอาหารประเภทอื่น

โดยยกตัวอย่าง อาหารแพลนต์เบส เช่น

  • ไข่จากพืช (Plant-Based Egg)
  • น้ำสลัดจากพืช (Plant-Based Dressing)
  • เครื่องปรุงรสจากพืช (Plant-Based Seasoning)
  • นมจากพืช (Plant-Based Dairy) เช่น นมอัลมอนด์ นมเฮเซลนัต นมถั่วเหลือง และนมโอ๊ต

Butterfly live in Bangkok !!
New Distribution Hub

โรงงานผลิตเครื่องดื่ม OEM บริการครบวงจร มาตรฐานสากลมาตรฐานระดับโลกเเบบครบวงจร ผลิตสินค้าทุกชิ้นภายใต้มาตรฐานระดับสากลไม่ว่าจะเป็น HACCP, Halal และ USDA Organic


นอกจากการรับผลิตสินค้า OEM แล้ว เรายังมี Butterfly Hub บริการให้เช่าพื้นที่ห้องเย็น พร้อมส่งสินค้าถึงมือลูกค้า นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ให้ประชุม ออฟฟิศให้เช่า และพื้นที่คาเฟ่ให้ทุกคนมาขายสินค้า และแชร์แลกเปลี่ยนแนวคิด สำหรับสังคมคนรักสุขภาพ หากสนใจติดต่อเรา Butterfly Hub

นมโอ๊ต คืออะไร ทำไมถึงมาแรงและกำลังกลายเป็นเทรนด์ทั่วโลก

นมโอ๊ต คือ นมที่ผลิตมาจากข้าวโอ๊ต เป็นนม Plant based หรือนมพืชที่ใคร ๆ ก็ดื่มได้ ไม่ว่าจะสายเฮลธ์ตี้ คนกินเจ วีแกน มังสวิรัติ ที่สำคัญประโยชน์ของนมโอ๊ตยังดีต่อสุขภาพมากมาย และถูกนำไปใช้ในอาหารในสายคนรักสุขภาพหลายอย่าง  เช่น คุกกี้ข้าวโอ๊ต แพนเค้กข้าวโอ๊ต หรือข้าวโอ๊ตแช่ข้ามคืนสำหรับเป็นอาหารเช้า นั่นเพราะข้าวโอ๊ตอัดแน่นไปด้วยไฟเบอร์ โดยเฉพาะเบต้ากลูแคนที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายและลดคอเลสเตอรอลได้ ข้าวโอ๊ตยังมีค่า GI (Glycemic Index) หรือกลูโคสในคาร์โบไฮเดรตต่ำ  ทำให้อิ่มท้องนาน นอกจากนั้นยังมีโปรตีนมากกว่าธัญพืชชนิดอื่นๆ อีกด้วยนั่นเอง

ข้าวโอ๊ต นมที่กลายเป็นที่ต้องการ แม้จะราคาแพง ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?

ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้บริโภคที่ขับเคลื่อนตลาดนมจากพืช เริ่มชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ

1) กลุ่มที่หลีกเลี่ยงการบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์

2) กลุ่มที่มีความต้องการเฉพาะด้านโภชนาการ เช่น มีอาการแพ้แลคโตส ควบคุมน้ำหนัก

3) กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อปานกลางถึงสูง ที่ต้องการสินค้าใหม่ที่ตอบความต้องการเฉพาะ และบ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์

ซึ่งด้วยกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ มีจุดประสงค์ในการดื่มพืชอย่างชัดเจน ทำให้แม้ราคานมโอ๊ตจะสูงแต่ยังทำให้ได้รับความนิยม และมีแนวโน้มได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น โดยนอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้นมชนิดนี้เป็นที่ต้องการตามมาด้วย เช่น

มีกาแฟต้องมี นมโอ๊ต

ในอดีตเครื่องดื่มที่มีนมเป็นส่วนผสม จะมี “นมวัว” เป็นวัตถุดิบหลัก แต่ปัจจุบันร้านเครื่องดื่มต่างๆ เริ่มหันมาเพิ่มทางเลือกของนมพืชหลากหลายชนิด ซึ่งนอกจากจะช่วยลูกค้ากลุ่มเป้าหมายกลับมาซื้อซ้ำได้มากขึ้นแล้ว ยังเพิ่มไลน์เมนูให้มากขึ้นอีกด้วย

โดยเฉพาะนมโอ๊ต เป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบยอดฮิตในร้านกาแฟยุคใหม่ ด้วยจุดเด่นเรื่องรสชาติ ที่เข้มข้นคล้ายนมวัวมากกว่านมพืชชนิดอื่นๆ แถมไม่มีกลิ่นเฉพาะที่แรงจนกลบรสชาติของกาแฟ หรือทำให้กลิ่นผิดเพี้ยนจนเสียอรรถรส นมโอ๊ตจึงมักปรากฏเป็นหนึ่งในเมนูของร้านกาแฟ แถมบางแบรนด์ยังใส่ใจเรื่องรสชาติจนพัฒนาสูตรที่เหมาะกับบาริสต้าโดยเฉพาะ ซึ่งยิ่งทำให้โอกาสเติบโตของนมโอ๊ตขยับขึ้นมาอีกขั้นด้วย

นมโอ๊ต ไม่ใช่แค่เทรนด์

นอกจากจุดขายที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่หาซื้อได้โดยตรงแล้ว จุดเด่นของนมโอ๊ตที่เข้ามาบุกตลาดนมพืชในไทย ก็ยังสะท้อนวิธีชีวิตความเป็นเมืองหรือเป็นคนรุ่นใหม่ได้อย่างดี ทั้งบรรจุภัณฑ์ที่มีติดตู้โชว์แล้วดูดีไม่เคอะเขิน ทำให้คนรุ่นใหม่ไม่น้อยยอมควักเงินจ่ายเพื่อแสดงไลฟ์สไตล์ของตัวเอง

จุดนี้เองทำให้นมโอ๊ตแบรนด์ต่างๆ ในต่างประเทศเข้ามาสู่ตลาดของไทย และหลายแบรนด์ในไทยเริ่มพัฒนานมโอ๊ตเพื่อช่วงชิงเค้กก้อนนี้ โดยมุ่งเน้นการสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ การให้ความสำคัญกับรายละเอียดของกระบวนการผลิตและวัตถุดิบ มากกว่าการแข่งขันด้านราคา และเน้นเจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ซึ่งมีความเต็มใจที่จะจ่ายให้กับสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะได้

โดยในเอเชียแปซิฟิก มีตลาดนมข้าวโอ๊ตเติบโต 45% ใน 2020 เนื่องจากไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป สังคมเมือง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงความนิยมด้านอาหารของคนเอเชียที่หันมาสนใจอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มขึ้น ยิ่งผลักดันให้นมจากพืชได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างมีนัยสำคัญ

oat milk อ้วนไหม

เป็นคำถามที่หลายๆ คนสงสัยว่านมชนิดนี้ ดื่มแล้วอ้วนหรือไม่ คำตอบคือ ไม่เลย ซึ่งนอกจากจะไม่ได้เพิ่มน้ำหนักแล้ว โอ๊ตมีลยังมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักอีกด้วย หลายคนอาจจะมองว่าพลังงาน 300 กว่าแคลอรีนั้นเยอะเกินไป ไม่น่าจะเหมาะกับคนลดน้ำหนัก แต่เมื่อเทียบกับปริมาณข้าวโอ๊ต ครึ่งถ้วยตวงนั้นถือว่าเยอะมาก หากกินจริง ๆ แล้วปริมาณเท่านี้ ทำให้อิ่มได้ทั้งวันเลยทีเดียว

ในโอ๊ตยังมีสิ่งที่เรียกว่า สตาร์ช (Resistant Starch) ที่ทนต่อการย่อยของเอนไซม์สูงมาก นั่นหมายความว่าเราจะยิ่งอิ่มท้องนานขึ้น และยังมีส่วนช่วยให้ร่างกายใช้พลังงานมากขึ้น เร่งการเผาผลาญไปในตัว งานวิจัยยังพบว่า กลุ่มผู้เข้าทดลองที่ได้รับ สตาร์ช (แป้งทนทานการย่อย) จากอาหารเพิ่มขึ้นแค่วันละ 5% สามารถเพิ่มการทำงานของระบบเผาผลาญได้มากถึง 23%เลยทีเดียว

ข้าวโอ๊ต กี่แคลอรี

จากที่กล่าวไปว่าเจ้านมธัญพืชชนิดนี้ นอกจากจะไม่ทำให้อ้วนแล้ว ก็ยังสามารถช่วยลดน้ำหนักอีกด้วย เพราะมันเป็นนมที่ไม่มีไขมันอิ่มตัวและไม่มีคอเลสเตอรอล ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่อยากจำกัดปริมาณแคลอรีหรือมีระดับคอเลสเตอรอลสูง โดยมีปริมาณไขมันเพียง 0.5 กรัม ต่อ 100 มล. ในขณะที่นมวัวและนมจากถั่วชนิดอื่น ๆ มีไขมัน 2-4 กรัม ต่อ 100 มล. เท่านั้น

นมข้าวโอ๊ตสารอาหาร ที่มากกว่าที่คุณคิด

หลายๆ คนอาจไม่เคยรู้ว่า นม oat milk นั้น แม้จะเป็นธัญพืชเม็ดเล็กๆ ที่ถูกสกัดมาเป็นน้ำนม แต่ก็มีคุณค่าทางสารอาหารมากมาย เช่น

  • อุดมไปด้วยวิตามิน B12 B1 B6 ช่วยบำรุงสมองและเสริมสร้างการทำงานของร่างกาย มีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งทำงานได้ดีกับวิตามินซี
  • มีโอเมก้า 6 และโอเมก้า 3 ช่วยลดการอักเสบของหลอดเลือดแดงได้อีกด้วย
  • มีแคลเซียมสูง ปริมาณเทียบเท่ากับนมวัวเลย ดังนั้นเหมาะกับคนทุกวัย เด็กก็ดื่มได้ ผู้สูงอายุที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุนก็ดื่มนมโอ๊ตเพื่อเสริมสร้างแคลเซียมในกระดูกให้แข็งแรง
  • มีธาตุเหล็ก สังกะสี และแม็กนีเซียม ที่ช่วยควบคุมกระบวนการต่าง ๆ ในร่างกายให้มีประสิทธิภาพ

ข้าวโอ๊ต ประโยชน์ โทษ แตกต่างกันอย่างไร?

แน่นอนว่านอกจากมีข้อดีแล้วก็ย่อมมีข้อเสีย ซึ่งนมจากโอ๊ตจะมีข้อดี-ข้อเสียต่างกันอย่างไรบ้าง ตามมาดูไปพร้อมๆ กัน

ข้าวโอ๊ต ประโยชน์ มีอะไรบ้าง?

มีไขมันต่ำ

นมข้าวโอ๊ตมีแคลอรีและไขมันต่ำ โดยมีปริมาณไขมันต่ำเพียง 0.5 กรัม ต่อ 100ml ขณะที่นมวัวและนมจากถั่วชนิดอื่น ๆ มีไขมัน 2-4 กรัม ต่อ 100 มล. นอกจากนี้นมข้าวโอ๊ตยังไม่มีไขมันอิ่มตัว ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่อยากจำกัดปริมาณแคลอรีและผู้ที่มีระดับคอเลสเตอรอลสูง

มีกากใยที่ละลายน้ำได้สูง

นมข้าวโอ๊ตมีปริมาณกากใยที่ละลายน้ำได้มาก กากใยที่ละลายน้ำนี้เรียกว่า เบต้ากลูแคน ซึ่งช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน เบต้ากลูแคน เป็นสารที่การศึกษาส่วนใหญ่ให้ความสำคัญเนื่องจากการบริโภคเบต้ากลูแคนช่วยลดโอกาสของการติดเชื้อและช่วยพัฒนาระบบการซ่อมแซมส่วนสึกหรอของร่างกาย นอกจากนี้ยังเชื่อว่าเบต้ากลูแคนช่วยให้กระบวนการขจัดเซลล์มะเร็งทางธรรมชาติของร่างกายทำงานดีขึ้น ประโยชน์อื่นๆของเบต้ากลูแคน คือการลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี, ลดน้ำตาลในเลือดและเพิ่มแบคทีเรียที่ดีในทางระบบเดินอาหาร

ช่วยลดคอเลสเตอรอล

การศึกษาได้พิสูจน์แล้วว่าเบต้ากลูแคน ที่พบในข้าวโอ๊ตมีประโยชน์ในการลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดโดยรวม ซึ่งรวมถึงระดับคอเลสเตอรอล LDL (ชนิดไม่ดี)ที่ทำปฏิกิริยากับอนุมูลอิสระและทำลายเส้นเลือดแดงและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ สารต้านอนุมูลอิสระในข้าวโอ๊ตทำงานได้ดีกับวิตามินซี โอ๊ตยังมีโอเมก้า 6 และโอเมก้า 3 ช่วยลดการอักเสบของหลอดเลือดแดงได้อีกด้วย

ผลข้างเคียง

มีคาร์โบไฮเดรตสูงและโปรตีนต่ำ

นมข้าวโอ๊ตไม่เพียงแต่มีไขมันน้อย ยังมีโปรตีนน้อยด้วย แคลอรีส่วนใหญ่ของนมข้าวโอ๊ตมาจากคาร์โบไฮเดรต ซึ่งสามารถส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดได้ ข้าวโอ๊ตเป็นที่รู้จักว่ามีเส้นใยมากมาย แต่เมื่อผ่านกระบวนการเป็นนมข้าวโอ๊ตเส้นใยส่วนใหญ่จะถูกรองออก ทำให้นมข้าวโอ๊ตมีคาร์โบไฮเดรตสูงและเส้นใยที่ต่ำ เพิ่มอัตราการดูดซึมในร่างกาย

อาจมีกลูเตน

ตามธรรมชาติข้าวโอ๊ตไม่มีกลูเตน เนื่องจากไม่ได้จัดเป็นธัญพืชที่มีโปรตีนกลูเตน แต่เนื่องจากกระบวนการอุตสาหกรรมได้รวมการปลูกและผลิตข้าวโอ๊ตในสถานที่เดียวกับธัญพืชอื่นๆที่มีกลูเตน จึงทำให้แทบจะเป็นไปที่ข้าวโอ๊ตและผลิตภัณฑ์ข้าวโอ๊ตจะไม่มีกลูเตน อย่างไรก็ตามควรเลือกข้าวโอ๊ตที่มีฉลากผลิตภัณฑ์ระบุว่าไม่มีกลูเตนและได้รับการรับรองว่าไม่ได้รับการผสมกับธัญพืชชนิดอื่นๆหากพยายามที่จะหลีกเลี่ยงกลูเตน

อย่างไรก็ตาม นมข้าวโอ๊ตอุดมไปด้วยกากใยที่ละลายน้ำได้ ซึ่งมีส่วนช่วยในการละการอักเสบในร่างกายและลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี นมข้าวโอ๊ตยังมีปริมาณไขมันที่ต่ำมากอีกด้วยเนื่องจากนมข้าวโอ๊ตทำมาจากธัญพืช นมข้าวโอ๊ตยังไม่ก่อให้เกิดอาการไม่เหมือนกับนมชนิดอื่นๆ ที่ทำมาจากถั่ว ด้วยเหตุผลต่างๆ ดังกล่าวจึงทำให้มันเป็นนมที่เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนทานแพลนต์เบสที่ซึ่งเป็นเทรนด์ของการทานอาหารในยุคปัจจุบันนั่นเอง

Plant Base Milk จาก Butterfly Organic

ฟาร์ม Butterfly Organic มุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าแบบออร์แกนิคโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นนมโคแท้ออร์แกนิค นมจากพืช โยเกิร์ตชนิดคงตัว และโยเกิร์ตพร้อมดื่ม สำหรับนม Plant Base จากทางฟาร์มของเรานั้นเป็นนมที่สกัดมาจากพืชและธัญพืชที่ได้รับการดูแลแบบออร์แกนิก จนได้รับการรับรองจาก USDA หรือ U.S. Department of Agriculture จากสหรัฐอเมริกา ว่าผลิตภัณฑ์จากฟาร์มของเรานั้นสกัดมาจากวัตถุดิบจะต้องไร้สิ่งปนเปื้อนทุกชนิด พืชต้องปลูกด้วยดินที่ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยมูลสัตว์ สารกำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าแมลงทุกชนิด การฉายรังสี และไม่ผ่านการตัดต่อพันธุกรรม นั่นจึงทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ถึงความสะอาดและปลอดภัยของนมพืชจาก Butterfly Organic ที่ส่งถึงมือของทุกคนโดยตรง หากใครสนใจสั่งสินค้าหรือดูสินค้าจากฟาร์มของเราเพิ่มเติม  สามารถติดตามผ่านไลน์ได้ที่นี่ (คลิก) เพื่อให้สินค้าของเราได้เข้าถึงคุณง่ายมากขึ้น

FAQ

นมข้าวโอ๊ต เก็บได้กี่วัน

โดยทั่วไปแล้วเราสามารถเราสามารถเก็บนมข้าวโอ๊ตไว้ในตู้เย็นได้นานถึง 5  ซึ่งควรเก็บนมไว้ในตู้เย็นได้นานถึง 5 วันเพื่อให้แน่ใจว่านมจะไม่เสียไป และหากคุณสังเกตเห็นว่านมข้าวโอ๊ตโฮมเมดของคุณเริ่มแยกตัวให้เขย่าเบา ๆ ก่อนดื่มติดฉลากวันที่ที่คุณทำนมข้าวโอ๊ตไว้ในภาชนะเพื่อให้คุณรู้ว่าจะอยู่ได้นานแค่ไหน

บทความล่าสุด

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ Privacy Policy และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า