butterfly organic
Search
Close this search box.

โยเกิร์ตธรรมชาติ อีกหนึ่งความออร์แกนิค ที่คนยุคใหม่ควรรับประทาน

Picture of Butterfly Organic

Butterfly Organic

สารบัญบทความ

.

โยเกิร์ตธรรมชาติ อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์นมที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ในสมัยก่อน เรามักนิยามให้โยเกิร์ตประเภทนี้เป็นโยเกิร์ตสำหรับผู้ที่รักสุขภาพหรือผู้ที่ควบคุมน้ำหนักเท่านั้น แต่ในปัจจุบัน สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เพราะในช่วง 2-3 ปีให้หลังมานี้ เราทุกคนต่างได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ นั่นจึงเป็นเหตุผลทำให้ผู้บริโภคเลือกรับประทานอาหารที่มาจากธรรมชาติมากขึ้นเพื่อบำรุงร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ ซึ่งหนึ่งในอาหารที่ว่านั้นก็คือ โยเกิร์ตจากธรรมชาติ ที่มีดีมากกว่าการช่วยขับถ่ายเพียงอย่างเดียวตามที่เราเคยรู้กัน

.

.

โยเกิร์ตรสธรรมชาติคืออะไร แตกต่างจากโยเกิร์ตชนิดอื่น ๆ อย่างไร?

หากคุณกำลังมองหาอาหารเบา ๆ ที่กินแล้วไม่หนักท้อง แถมยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย เราขอแนะนำ “โยเกิร์ตรสธรรมชาติ” ซึ่งโยเกิร์ตเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการนำหัวเชื้อแบคทีเรียกลุ่มที่ผลิตกรดแลกติกไปหมักในนมและทำปฏิกิริยากับโปรตีนในนมจนโปรตีนเสียสภาพและจับตัวเป็นก้อน จึงมีเนื้อสัมผัสหนืดขึ้นและมีรสชาติอมเปรี้ยว จนเกิดเป็นเมนูที่เหมาะกับคนรักสุขภาพหรือคนที่กำลังลดน้ำหนัก เพราะอุดมไปด้วยโปรตีน แบคทีเรียดี ซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายอีกด้วย

.

ในปัจจุบันมีหลากหลายแบรนด์ที่ผลิตโยเกิร์ตรสธรรมชาติออกมาวางจำหน่าย แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นโยเกิร์ตรสธรรมชาติเหมือนกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องของเนื้อสัมผัสและปริมาณน้ำตาล ในบทความนี้เราจึงได้รวบรวมข้อมูลวิธีการเลือกโยเกิร์ตรสธรรมชาติมาฝากกัน

.

.

โยเกิร์ตธรรมชาติคือ?

.

โยเกิร์ตจากธรรมชาติ คือ โยเกิร์ตที่ผลิตจากนมโคสดแท้ 100% ไม่ผสมนมผง และต้องผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานระดับสากลหรือที่น่าเชื่อถือ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ในปัจจุบันหลาย ๆ ฟาร์มจึงพยายามที่จปรับปรุงกรรมวิธีตั้งแต่การเลี้ยงวัว การปลูกพืชต่าง ๆ รวมถึงขั้นตอนการผลิตที่ต้องไร้สารเคมี เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความปลอดภัยจากการรับประทาน และมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายอย่างแท้จริง

.

ซึ่งวิธีการทำโยเกิร์ตนั้นจะต้องนำนมที่ได้มาผ่านขั้นตอนการฆ่าเชื้อโรคหรือจุลินทรีย์ต่าง ๆ ด้วยการใช้ความร้อนสูงหรือการพาสเจอร์ไรส์ (Pasteurization) หลังจากนั้นจึงใส่แบคทีเรียชนิดดีลงไป คือ แล็กโทบาซิลลัส บัลการิคัส (Lactobacillus Bulgaricus) และ สเตรพโตค็อกคัส เทอร์โมฟิลัส ( Streptococcus Thermophilus) หรือที่เรารู้จักกันในชื่อโพรไบโอติกส์ (Probiotics) เพื่อทำให้โยเกิร์ตมีกลิ่นและรสชาติดี แต่ในบางยี่ห้ออาจมีการเติมแบคทีเรียอย่าง บิฟิโดแบคทีเรีย แล็กทิส (B.Lactis) ลงไปด้วย ซึ่งมีส่วนช่วยในการปรับสมดุลลำไส้ ดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และประโยชน์อีกมากมาย

.

โยเกิร์ตธรรมชาติ VS โยเกิร์ตอื่น ๆ ในท้องตลาด ต่างกันอย่างไร?

.

.

จากที่ได้กล่าวไปว่า โยเกิร์ตนั้นสามารถแบ่งออกได้หลายชนิด ซึ่งนอกจากโยเกิร์ตจากธรรมชาติแล้ว ก็ยังมีโยเกิร์ตรูปแบบอื่น ๆ ที่มีความแตกต่างกันอยู่ ดังนี้

.

1. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ

.

เนื้อครีมกึ่งแข็งกึ่งเหลว รสชาติอมเปรี้ยว ทำจากนม ทั้งชนิดไขมันปกติ ไขมันต่ำ และปราศจากน้ำตาล ซึ่งจะต่างจากโยเกิร์ตธรรมดา ตรงที่ว่าแม้จะเป็นรสชาติแบบดั้งเดิมก็ตาม (ไม่แต่งกลิ่น เลียนแบบสีเพิ่ม) แต่ก็อาจมีการเพิ่มน้ำตาลลงไปเพื่อปรับรสชาติให้หวานขึ้นได้นั่นเอง ดังนั้นการจะเลือกซื้อโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ผู้บริโภคควรสังเกตให้ดีด้วย

.

2. โยเกิร์ตพร้อมดื่ม

.

ถือเป็นโยเกิร์ตอีกรูปแบบหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยม เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเอาโยเกิร์ตหมักแล้วมาทำการเจือจาง ปรุงแต่งกลิ่น รส และสี จึงทำให้เนื้อโยเกิร์ตมีลักษณะเหลวจนสามารถดื่มได้ มักอยู่ในรูปแบบของรสผลไม้เพื่อดึงดูดใจผู้บริโภค ซึ่งเรามักจะพบเห็นโยเกิร์ตพร้อมดื่มชนิดปรุงแต่งมากกว่าแบบรสธรรมชาติ

.

3. กรีกโยเกิร์ต

.

เนื้อโยเกิร์ตจะมีลักษณะแข็งมากกว่าโยเกิร์ตแท้ เพราะเอาความชื้นออก มีโปรตีนสูงกว่าโยเกิร์ตปกติถึงสองเท่า

.

4. โพรไบโอติกโยเกิร์ต

.

เป็นโยเกิร์ตที่ผ่านกระบวนการเติมจุลินทรีย์เพิ่มเติ่มเข้าไป ทำให้มีคุณประโยชน์เพิ่มขึ้น

.

5. โยเกิร์ตที่ไม่ได้ทำมาจากนม

.

ทำมาจากนมถั่วเหลือง น้ำนมข้าว หรือกะทิ สำหรับคนที่เป็นมังสวิรัต รสชาติแตกต่างจากโยเกิร์ตทั่วไป รวมถึงกลิ่นเฉพาะที่มาจากวัตถุดิบที่แตกต่างกัน

.

โยเกิร์ตรสธรรมชาติ สรรพคุณต่าง ๆ ที่มากกว่าการช่วยขับถ่าย

เป็นที่ทราบกันดีว่าโยเกิร์ตนั้นถือเป็นผลิตภัณฑ์อีกชนิดหนึ่งที่ช่วยให้ระบบขับถ่ายของเรานั้นทำงานได้ดีขึ้น แต่สำหรับโยเกิร์ตรสธรรมชาตินั้น มีดีกว่าที่หลาย ๆ คนอาจเคยรู้ก็เป็นได้ เช่น

.

1. ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ให้ดีขึ้น

.

ในโยเกิร์ตมีแลคโตบาซิลัส ช่วยยับยั้งการเติบโตของเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ ที่เป็นสาเหตุให้เกิดโรคกระเพาะ ช่วยลดการอักเสบของลำไส้

.

2. โยเกิร์ตมีแคลเซียมสูง

.

ช่วยในเรื่องเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน

.

3. ช่วยลดคอเรสเตอรอลได้ดี

.

โยเกิร์ตเต็มไปด้วยโพรไบโอติก ที่ช่วยลดระดับคอเรสเตอรอล เเละช่วยลดความดันโลหิตได้ด้วย

.

4. ช่วยควบคุมน้ำหนัก

.

โยเกิร์ตรสธรรมชาติมีโปรตีนสูง เเละให้แคลอรี่ต่ำ รับประทานเเล้วอิ่มท้องนาน

.

5. โยเกิร์ตช่วยลดกลิ่นปาก

.

การรับประทานโยเกิร์ตแบบไม่มีน้าตาล จะช่วยลดกลิ่นปากได้สำหรับคนที่มีกลิ่นปาก เพราะแบคทีเรียแลคโตบาซิลัส และสเต็ปโตค็อสคัส จะช่วยยับยั้งปริมาณไฮโดรเจรซัสไฟด์ ที่เป็นสาเหตุให้เกิดกลิ่นปาก

.

6. โยเกิร์ตช่วยเสริมสร้างคุ้มกัน

.

โพรไบโอติกส์ ช่วยป้องกันการติดเชื้อในร่างกาย เเละช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย

.

7. โยเกิร์ตช่วยให้หลับสบาย

.

เพราะโยเกิร์ตเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม มีกรดอะมิโน และทริปโตเฟน ที่ทำให้ร่ายกายหลังฮอร์โมนเซโรโทนิน ที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และหลับสบาย

.

8. ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย

.

โยเกิร์ตมีปริมาณโปรตีนสูง ซึ่งการรับประทานหลังออกกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายสามารถดึงโปรตีนไปใช้เสริมสร้างกล้ามเนื้อ เเละช่วยฟื้นฟูความเสียหายของกล้ามเนื้ออีกด้วย

.

โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ลดความอ้วนได้จริงไหม กินยังไงให้ลดน้ำหนักได้ผล

.

เนื่องด้วยคุณสมบัติที่มีไขมันต่ำ และปราศจากน้ำตาล จึงทำให้โยเกิร์ตชนิดนี้กลายเป็นขวัญใจของคนควบคุมน้ำหนักไปโดยปริยาย ซึ่งวิธีการรับประทานให้ลดน้ำหนักอย่างได้ผลนั้น ควรกินโยเกิร์ตในตอนเช้า เพราะนอกจากจะช่วยเรื่องน้ำหนักแล้ว ก็ดีต่อสุขภาพอีกด้วย โดยมีข้อแม้ว่าหากต้องการกินโยเกิร์ตลดน้ำหนักอย่างได้ผล จะต้องเลือกกินโยเกิร์ตรสธรรมชาติเท่านั้น ซึ่งผู้บริโภคอาจนำมาผสมกับผลไม้สดอย่างส้ม กีวี สตรอว์เบอร์รี บลูเบอร์รี แอปเปิล หรือกล้วย และผลไม้ชนิดอื่น ๆ เพื่อเพิ่มไฟเบอร์ให้แก่ร่างกาย ทำให้โยเกิร์ตถ้วยดังกล่าวเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารมากขึ้น และเมื่อร่างกายอิ่มท้องไปด้วยไฟเบอร์ อาการหิวจุบจิบในมื้อถัดไปก็ลดลง แถมยังทำให้ระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้นอีกด้วย

.

โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ยี่ห้อไหนดี มีวิธีเลือกยังไงให้เหมาะกับเรา

.

เมื่อทุกคนได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับประโยชน์ของโยเกิร์ตกันไปแล้ว ต่อไปเรามาดูกันดีกว่าว่า จะมีปัจจัยใดที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อโยเกิร์ตรสธรรมชาติบ้าง เพราะถึงแม้จะดูเหมือนไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็มีสิ่งสำคัญที่คุณควรรู้ก่อนหยิบ ที่นอกเหนือจากเรื่องแบรนด์หรือยี่ห้อด้วยเช่นกัน ซึ่งวิธีการเลือกโยเกิร์ตแบบธรรมชาตินั้นจะมีอะไรบ้าง มาดูไปพร้อม ๆ กัน

.

1. เลือกตามประเภทเนื้อของโยเกิร์ตรสธรรมชาติ

.

หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับโยเกิร์ตที่มีลักษณะเป็นของเหลวข้น ๆ ที่จัดเป็นโยเกิร์ตชนิดกวน แต่นอกเหนือจากนี้แล้วยังมีโยเกิร์ตชนิดคงตัวและโยเกิร์ตพร้อมดื่มอีกด้วย ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีกรรมวิธีการผลิตและรสสัมผัสที่แตกต่างกันออกไปนั่นเอง

.

2. เลือกโยเกิร์ตรสธรรมชาติสูตรไขมันต่ำ น้ำตาลน้อย

.

อีกสิ่งสำคัญที่ควรใส่ใจในการเลือกโยเกิร์ตรสธรรมชาติ คือ การเลือกสูตรที่เน้นชัดเจนว่ามีไขมันต่ำ มีน้ำตาลน้อยหรือไม่มีน้ำตาลเลยจะดีที่สุดค่ะ เพราะหลายคนอาจจะคิดว่า การเลือกรับประทานโยเกิร์ตรสธรรมชาติก็เพียงพอต่อการดูแลสุขภาพแล้ว แต่รู้หรือไม่คะว่า บางยี่ห้อนั้นแอบมีปริมาณน้ำตาลที่สูงมาก หากทานติดต่อกันเป็นประจำอาจทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลที่เกินความจำเป็น จนส่งผลให้เกิดเป็นโรคเบาหวานได้โดยที่เราไม่รู้ตัวได้

.

กินโยเกิร์ตทุกวัน ดีไหม ส่งผลยังไงต่อสุขภาพบ้าง?

.

คำตอบคือดี เพราะการกินโยเกิร์ตทุก ๆ วันจะช่วยป้องกันการติดเชื้อในร่างกาย ดังนั้น โปรไบโอติกส์สำคัญมาก ๆ เพราะมันช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันไปจนถึงระดับเซลล์ ซึ่งจะปกป้องคุณจากไวรัส ปรสิต และมะเร็ง คุณจะได้มีชีวิตยืนยาวยิ่งขึ้น ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและปริมาณที่รับประทานด้วย

.

โยเกิร์ตออร์แกนิค ผลิตภัณฑ์นมที่คนรักสุขภาพยุคใหม่ไม่ควรพลาด

.

จากที่กล่าวไปว่า โยเกิร์ตคือนมหมักที่นิยมกินกันอย่างแพร่หลายทั่วโลกอย่างยาวนาน และเป็นแหล่งโปรตีนทางเลือกนอกเหนือจากนมสด โยเกิร์ตมีหลากหลายแบบ โดยเมื่อเป็นโยเกิร์ตออร์แกนิค สิ่งที่ทำให้ต่างจากโยเกิร์ตอื่น ๆ ที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ กรรมวิธีการผลิต ที่โยเกิร์ตแบบออร์แกนิคนั้นถูกผลิตตามกรรมวิธีตามธรรมชาติ ไร้สารเคมี ดังนั้นจึงแปลได้ว่า โยเกิร์ตแบบออร์แกนิคจะไม่มีสารเคมีเจือปน เช่น สารกันบูด การผสมนมผง หรือการแต่งรส สี เลียนแบบธรรมชาติ เป็นต้น ซึ่งรวมถึงคุณค่าทางโภชนาการที่มีมากกว่าด้วย

.

ทั้งนี้รสชาติโยเกิร์ตออร์แกนิคนั้นจะขึ้นอยู่กับ “ฤดูกาล” ต่างๆ ด้วย เพราะการดูแลแบบธรรมชาติหรือออร์แกนิคต้องอาศัยความประณีต ใจเย็น ไม่เร่งรัดฝืนธรรมชาติ ถ้าเป็นนมจากสัตว์มักมีการเลี้ยงแบบปล่อยให้เดินตามทุ่งหญ้าสดที่ปลูกเอง วัว ควาย แพะ เหล่านั้นได้ออกกำลังกาย ไม่อุดอู้แบบบรรยากาศอุตสาหกรรม ส่งผลให้ออกผลผลิตได้น้อยกว่า และรสชาติแตกต่างกันไปบ้างในแต่ละขวด เพราะขึ้นอยู่กับธรรมชาติ อุณหภูมิในการหมัก รวมถึงตัวของวัวเองด้วย โดยปัจจัยดังกล่าวจึงทำให้โยเกิร์ตแบบออร์แกนิคไม่เหมือนการผลิตภัณฑ์นมทั่วไปที่รสชาติเหมือนกันในทุก ๆ ขวดนั่นเอง ซึ่งก็ถือเป็นจุดเด่นของผู้ที่กำลังตัดสินใจจะเลือกรับประทานโยเกิร์ตชนิดนี้ควรทราบไว้ เพื่อเป็นข้อควรรู้ด้วย

.

อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเป็นโยเกิร์ตชนิดไหน การกินโยเกิร์ตให้ถูกวิธีย่อมส่งผลดีต่อร่างกายได้เสมอ เพราะร่างกายจะสามารถรับประโยชน์จากสารอาหารที่อยู่ในโยเกิร์ตได้อย่างเต็มที่ สำคัญที่สุดคือการรับประทานควบคู่กับอาหารทั้ง 5 หมู่ และดื่มน้ำให้มาก ๆ พร้อมทั้งออกกำลังกายเป็นประจำ จะเป็นการดีต่อสุขภาพร่างกายอย่างมากเลยทีเดียว

สำหรับท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้และสนใจผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตแบบออแกนิคสามารถที่จะสั่งซื้อกับทางเราได้ เราได้รับมาตรฐาน USDA เป็นเจ้าเดียวที่ได้รับในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค

.

โยเกิร์ตออร์แกนิค จาก Butterfly Organic

.

โยเกิร์ตออร์แกนิคของเรา ไม่ใช่แค่วัวที่เลี้ยงแบบกินหญ้า Grass Fed เท่านั้น แต่เป็นวัวที่กินหญ้าออร์แกนิค 100% (certified organic) ไม่มีการใช้ยาปฏิชีวนะ หรือสารเคมีใด ๆ ทั้งกับตัววัวและพื้นที่ในฟาร์ม เราปล่อยวัวให้เดินเล่นในทุ่งกว้าง ไม่มีการกักขัง เพื่อให้วัวของเราได้มีสุขภาพแข็งแรง อารมณ์ดี เพื่อให้ผลผลิตดีตามไปด้วย จนเราได้รับการปิดฉลากจากมาตรฐานออร์แกนิค USDA (NOP) องค์กรที่ดูแลผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจากประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าโยเกิร์ตของเราปลอดภัย ไร้สารเจือปน ส่งตรงมาจากฟาร์มอย่างแน่นอน สำหรับผู้ที่สนใจสั่งสินค้าและดูสินค้าเพิ่มเติม สามารถติดตามผ่านไลน์ได้ที่นี่ (คลิก)

.

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

โยเกิร์ตรสธรรมชาติกินตอนไหนดี

โยเกิร์ตเป็นอาหารที่ไม่ควรรับประทานตอนท้องว่าง เนื่องจากในโยเกิร์ตมีกรดแลคติค (Lactic Acid) ซึ่งไม่สามารถมอบประโยชน์ได้เต็มที่ในกระเพาะที่มีสภาวะเป็นกรด โดยเฉพาะช่วงที่ท้องว่าง ดังนั้นหากคุณอยากได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ ก็ควรรับประทานหลังอาหารจะดีกว่า

บทความล่าสุด

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ Privacy Policy และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า