เคยสงสัยกันหรือไม่ว่าโยเกิร์ตที่พวกเราหลายคนทาน รวมไปถึงผลิตภัณฑ์พาสเจอร์ไรซ์ แท้จริงแล้วใช้วิธีจัดเก็บอย่างไร จุลินทรีย์โยเกิร์ตคืออะไร ทำไมถึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการดังกล่าว และจุลินทรีย์โยเกิร์ตที่มีชีวิตมีข้อดีอย่างไร เมื่อมนุษย์เรารับประทานเข้าไป หากสงสัยวันนี้บทความของเราจะมาขยายให้ทราบความหมายจุลินทรีย์ในโยเกิร์ต รวมถึงจุลินทรีย์โยเกิร์ต ประโยชน์ที่เราหลายคนอาจะไม่เคยทราบมาก่อน
จุลินทรีย์โยเกิร์ตที่หลายคนเคยได้ยินคืออะไร
จุลินทรีย์โยเกิร์ตคือ แบคทีเรียที่มีชีวิต ซึ่งใช้ในการหมักนมและเปลี่ยนเป็นโยเกิร์ต แบคทีเรียที่ใช้บ่อยที่สุด 2 ชนิดในการผลิตโยเกิร์ต ได้แก่ Lactobacillus bulgaricus และ Streptococcus thermophilus แบคทีเรียเหล่านี้ทำงานร่วมกัน เพื่อเปลี่ยนแล็กโทสซึ่งเป็นน้ำตาลธรรมชาติที่พบในนมให้เป็นกรดแล็กติก ซึ่งทำให้โยเกิร์ตมีรสเปรี้ยวและเนื้อครีมข้น แบคทีเรียอื่น ๆ เช่น Lactobacillus acidophilus และ Bifidobacterium อาจถูกเติมลงในโยเกิร์ตเพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพ จุลินทรีย์ที่มีชีวิตเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้โยเกิร์ตเป็นอาหารที่มีโพรโบโอติก เนื่องจากเชื่อว่าสนับสนุนระบบย่อยอาหารและการทำงานของร่างกายให้มีภูมิคุ้มกันที่ดีต่อสุขภาพ
จุลินทรีย์โยเกิร์ตมีกี่ชนิด อะไรบ้าง
มีจุลินทรีย์หลายชนิดที่สามารถนำมาใช้ทำโยเกิร์ตได้ แต่จุลินทรีย์แบคทีเรียที่พบบ่อยที่สุด 2 ชนิดที่ใช้ในการผลิตโยเกิร์ตคือ Lactobacillus bulgaricus และ Streptococcus thermophilus แบคทีเรียทั้งสองชนิดนี้ทำงานร่วมกัน เพื่อหมักแล็กโทสในนม ทำให้เกิดกรดแล็กติกและสารประกอบอื่น ๆ ที่ทำให้โยเกิร์ตมีรสชาติ ลักษณะเนื้อสัมผัส และประโยชน์ต่อสุขภาพ จุลินทรีย์แบคทีเรียประเภทอื่น ๆ ที่อาจเติมลงในโยเกิร์ต ได้แก่ แลคโตบาซิลลัส แอซิโดฟิลัส บิฟิโดแบคทีเรียม และโพรโบโอติกสายพันธุ์ต่าง ๆ ชนิดของจุลินทรีย์ที่ใช้ทำโยเกิร์ต อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับยี่ห้อและสูตรอาหาร แต่เชื้อจุลินทรีย์ Lactobacillus bulgaricus และ Streptococcus thermophilus เป็นที่นิยมใช้มากที่สุด
จุลินทรีย์โยเกิร์ต ประโยชน์มีอะไรบ้าง
จุลินทรีย์โยเกิร์ตหรือที่เรียกว่าโพรโบโอติกมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ ได้แก่
1. การย่อยอาหารดีขึ้น
โพรโบโอติกช่วยย่อยสลายแล็กโทสและสารประกอบอื่น ๆ ในโยเกิร์ต ทำให้ย่อยได้ง่ายขึ้นในคนที่แพ้แล็กโทส หรือมีปัญหาทางเดินอาหารอื่น ๆ
2. เสริมการทำงานของภูมิคุ้มกัน
โยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์ที่มีชีวิตได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและการเจ็บป่วยอื่น ๆ
3. ลดคอเลสเตอรอล
บางการศึกษาวิจัยแนะนำว่าการบริโภคโยเกิร์ตที่มีเชื้อจุลินทรีย์ในโยเกิร์ตสดสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) ได้
4. สุขภาพของลำไส้ดีขึ้น
โพรโบโอติกสามารถช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ดีต่อสุขภาพในลำไส้ ซึ่งอาจปรับลดความเสี่ยงของสุขภาพทางเดินอาหารและสภาวะต่าง ๆ เช่น โรคลำไส้แปรปรวน (IBS) โรคมะเร็งลำไส้
6. การลดน้ำหนักที่เป็นไปได้
งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าการบริโภคโพรโบโอติก อาจช่วยส่งเสริมการลดน้ำหนัก โดยปรับการย่อยอาหารและลดการอักเสบในร่างกาย
สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าประโยชน์ต่อสุขภาพของจุลินทรีย์ในโยเกิร์ต
อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของแบคทีเรียและบุคคลที่บริโภคเข้าไป อย่างไรก็ตาม โดยรวมแล้วการบริโภคโยเกิร์ตที่มีเชื้อจุลินทรีย์ในโยเกิร์ตสดสามารถเป็นอาหารเสริมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพได้
มารู้จักโยเกิร์ตผลิตภัณฑ์พาสเจอร์ไรซ์
โยเกิร์ตเป็นผลิตภัณฑ์นมหมักที่ทำขึ้นโดยเติมแบคทีเรียที่มีชีวิตลงในนม แบคทีเรียจะหมักแล็กโทสในนม ทำให้เกิดกรดแลคติคซึ่งทำให้โปรตีนในนมจับตัวเป็นก้อนและข้นขึ้น ส่งผลให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นครีมและมีรสเปรี้ยว
โยเกิร์ตมักบริโภคเป็นอาหารและเป็นแหล่งโปรตีน แคลเซียม และสารอาหารอื่น ๆ ที่ดี สามารถรับประทานได้เองหรือใช้เป็นส่วนผสมในสูตรต่าง ๆ เช่น สมูทที ดิป และน้ำสลัด โยเกิร์ตยังมีให้เลือกหลายรสชาติและหลายสไตล์ เช่น กรีกโยเกิร์ต ซึ่งข้นและครีมเยอะกว่าโยเกิร์ตแบบดั้งเดิม เนื่องจากผ่านกระบวนการรัด เพื่อเอาหางนมออก
วิธีการจัดเก็บโยเกิร์ตและผลิตภัณฑ์พาสเจอร์ไรซ์ ให้จุลินทรีย์ที่มีชีวิตคงอยู่ ในช่วงอากาศร้อน
ควรเก็บโยเกิร์ตและผลิตภัณฑ์พาสเจอร์ไรซ์อื่น ๆ ซึ่งจุลินทรีย์โยเกิร์ตที่มีชีวิตอย่างเหมาะสม เพื่อช่วยรักษาคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพอากาศร้อน ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำบางประการเกี่ยวกับวิธีการเก็บโยเกิร์ตและผลิตภัณฑ์พาสเจอร์ไรซ์อื่น ๆ เพื่อให้จุลินทรีย์ที่มีชีวิตยังคงมีชีวิตอยู่ได้ในสภาพอากาศร้อนได้
1. เก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสม
สิ่งสำคัญคือต้องเก็บโยเกิร์ตและผลิตภัณฑ์พาสเจอร์ไรซ์อื่น ๆ ไว้ในตู้เย็นที่อุณหภูมิ 2-6 องศาเซลเซียส เพื่อช่วยรักษาจุลินทรีย์โยเกิร์ตที่มีชีวิต หลีกเลี่ยงการทิ้งโยเกิร์ตไว้ในตู้เย็นเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อน
2. ตรวจสอบวันหมดอายุ
อย่าลืมตรวจสอบวันหมดอายุของผลิตภัณฑ์และบริโภคก่อนที่จะหมดอายุ สิ่งนี้จะช่วยให้แน่ใจว่าจุลินทรีย์โยเกิร์ตที่มีชีวิตยังคงทำงานอยู่และทำงานได้
3. ใช้ถุงที่มีฉนวน
เมื่อขนส่งโยเกิร์ตหรือผลิตภัณฑ์พาสเจอร์ไรซ์อื่น ๆ ในสภาพอากาศร้อน ให้ใช้ถุงที่มีฉนวน เพื่อช่วยรักษาอุณหภูมิให้เย็นลง คุณยังสามารถใช้แพ็คน้ำแข็ง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เย็นได้นานยิ่งขึ้นอีกด้วย
4. หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง
แสงแดดโดยตรงสามารถเพิ่มอุณหภูมิของผลิตภัณฑ์ได้ ซึ่งจะนำไปสู่การลดจำนวนของจุลินทรีย์ที่มีชีวิต เก็บผลิตภัณฑ์ในที่เย็น แห้ง และมืดเพื่อช่วยรักษาคุณภาพ
5. เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีการเพาะเลี้ยงเชื้อ
เมื่อซื้อโยเกิร์ตหรือผลิตภัณฑ์พาสเจอร์ไรซ์อื่น ๆ ที่มีจุลินทรีย์ที่มีชีวิต ให้มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีการเพาะเลี้ยงเชื้อ โดยทั่วไปแล้วผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะมีข้อความระบุว่าเป็นเช่นนี้ และจะมีความเข้มข้นของโยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์สูงโดยรวมแล้ว
6. หยิบมาเทแล้ว รีบเก็บเข้าตู้เย็น
ไม่ควรวางทิ้งไว้นอกตู้เย็นจนคลายเย็น ยิ่งช่วงฤดูร้อนแค่ 15 นาทีนมก็อุ่นได้ จึงไม่ควรทิ้งไว้ให้หายเย็นหรือวางตากแดด
สรุปการจัดเก็บโยเกิร์ตละนมพาสเจอร์ไรซ์ ไม่ให้เสียความสด ใหม่ ไม่บูดง่าย จะต้องอาศัยความเย็นและความไว คือเมื่อเดลิเวอรี่มาถึงหรือซื้อกลับมาจากซุปเปอร์มาเก็ตแล้วให้นำเข้าตู้เย็นทันที ไม่วางไว้ข้างนอกหรือตากแดด โดยควรเก็บไว้ในอุณหภูมิคงที่ 2 – 6 องศา ไม่คววรเก็บไว้ที่ฝาตู้เย็น เพราะความร้อนภายนอกทำให้ฝาตู้เย็นไม่ถึง 6 องศา นมอาจเริ่มส่งกลิ่นแปลก ๆ ได้ และเมื่อนำออกมาจากตู้เย็นแล้วทานไม่หมดจะต้องนำเข้าแช่เย็นทันที ทั้งนี้ควรกินให้หมดภายใน 2 วัน
สิ่งสำคัญคือต้องดูแลอย่างเหมาะสม เมื่อเก็บโยเกิร์ตและผลิตภัณฑ์พาสเจอร์ไรซ์อื่น ๆ ที่มีจุลินทรีย์ที่มีชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพอากาศร้อน การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ยังคงปลอดภัยต่อการบริโภค และจุลินทรีย์ที่มีชีวิตจะได้รับการเก็บรักษาไว้ เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพสูงสุด ต้องการโยเกิร์ตหรือผลิตภัณฑ์พาสเจอร์ไรซ์ที่มีมาตรฐานออร์แกนิค USDA สุขภาพดีที่คุณเลือกได้ เลือกเรา Butterfly Organic โรงงานผลิตนม OEM ที่มุ่งการผลิตสินค้าที่ได้รับรองมาตรฐานสากล! สำหรับผู้ที่สนใจสั่งสินค้าและดูสินค้าเพิ่มเติมสามารถติดตามผ่านไลน์ได้ที่นี่ LINE SHOP BUTTERFLY ORGANIC
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ปริมาณจุลินทรีย์ในโยเกิร์ตอาจแตกต่างกันไปตามประเภทและยี่ห้อของโยเกิร์ต อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปแล้ว โยเกิร์ตหนึ่งหน่วยบริโภคมักจะมีจุลินทรีย์โยเกิร์ตที่มีชีวิตตั้งแต่หลายล้านไปจนถึงหลายพันล้านตัว
