butterfly organic

ประโยชน์ของโยเกิร์ต ที่มีทั้งโพรไบโอติกส์-พรีไบโอติกส์ คุณประโยชน์ 2 เท่า เมื่อมาอยู่ด้วยกัน 

Butterfly Organic

Butterfly Organic

ประโยชน์ของโยเกิร์ต แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงประโยชน์ของผลิตภัณฑ์นมชนิดนี้หลายๆ คนต้องนึกถึงเรื่องการกระตุ้นการขับถ่ายและการช่วยย่อยต่างๆ อย่างแน่นอน เนื่องจากในโยเกิร์ตนั้นมีจุลินทรีย์ดีบางตัวที่สามารถสร้างคุณประโยชน์ให้กับร่างกายอย่างมากมาย โดยเฉพาะจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ที่มีความเลื่องชื่อในเรื่องของประโยชน์ต่อระบบขับถ่ายดังกล่าวจึงไม่แปลกใจที่ใครๆ จะรู้จัก แต่ในบทความนี้ Butterfly Organic จะมากล่าวถึงจุลินทรีย์อีกหนึ่งตัวที่นับได้ว่าเป็นคู่หูที่ช่วยให้โพรไบโอติกส์ให้ทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งจะเป็นจุลินทรีย์อะไรนั้น มาติดตามไปพร้อมๆ กัน แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับโยเกิร์ตในแบบต่างๆ กันก่อน

โยเกิร์ต คืออะไร มีประโยชน์อย่างไรต่อร่างกายบ้าง?

“โยเกิร์ต” ผลิตภัณฑ์จากนมที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี มีหลากรสและนำไปดัดแปลงได้หลายรูปแบบ วางเรียงรายกันเต็มชั้นตู้แช่ในซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อ มีราคาถูก รวมถึงคุณประโยชน์มากมายที่พวกเรามักจะได้ยินเป็นประจำตามโฆษณาในโทรทัศน์และได้กลายมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่ติดตู้เย็นในหลายๆ บ้านอีกด้วย

โยเกิร์ต คือ

โยเกิร์ต คือ ผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการนำเชื้อแบคทีเรีย หรือที่เรียกว่าหัวเชื้อไปหมักในนม ซึ่งแบคทีเรียตัวนี้จะกินน้ำตาลแลคโตสที่มีเฉพาะในนมเป็นอาหาร และปล่อยกรดแลคติกออกมา ซึ่งทำปฏิกิริยากับโปรตีนในนม ที่ทำให้นมมีเนื้อสัมผัสเปลี่ยนไปและมีรสชาติอมเปรี้ยว นมที่นิยมนำมาทำเป็นโยเกิร์ตก็คือนมวัว แต่จริงๆ แล้วเราสามารถใช้นมจากสัตว์หลายชนิด เช่น นมแพะ นมแกะ นมอูฐ นมม้า หรือก็คือนำนมมาจากสัตว์ที่นิยมเลี้ยงในท้องถิ่นนั่นเอง

ประเภทของโยเกิร์ต

โยเกิร์ตสามารถแบ่งออกได้ 5 ประเภทด้วยกัน คือ

โยเกิร์ต แท้

เนื้อครีมกึ่งแข็งกึ่งเหลว รสชาติอมเปรี้ยว ทำจากนมทั้งชนิดไขมันปกติ ไขมันต่ำ และปราศจากน้ำตาล

กรีกโยเกิร์ต

เนื้อโยเกิร์ตจะมีลักษณะแข็งมากกว่าโยเกิร์ตแท้ เพราะเอาความชื้นออก มีโปรตีนสูงกว่าโยเกิร์ตปกติถึงสองเท่า

โพรไบโอติกส์โยเกิร์ต

โยเกิร์ตโพรไบโอติกส์เป็นโยเกิร์ตที่ผ่านกระบวนการเติมจุลินทรีย์เพิ่มเติมเข้าไป ทำให้มีคุณประโยชน์เพิ่มขึ้น

โยเกิร์ตชนิดดื่ม

โยเกิร์ตที่เติมน้ำหรือของเหลวอื่นเข้าไป มีรสชาติหวาน และมีน้ำตาลมากกว่าโยเกิร์ตทั่วไป

โยเกิร์ตที่ไม่ได้ทำมาจากนม

ทำมาจากนมถั่วเหลือง น้ำนมข้าว หรือกะทิ สำหรับคนที่เป็นมังสวิรัติ รสชาติแตกต่างจากโยเกิร์ตทั่วไป รวมถึงกลิ่นเฉพาะที่มาจากวัตถุดิบที่แตกต่างกัน

โยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์ พรี-โพไบโอติกส์ ทำงานร่วมกันอย่างไร?

ในร่างกายของเรานั้นมีจุลินทรีย์อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยมีทั้งจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ จุลินทรีย์ที่ไม่ก่อประโยชน์และโทษและจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโทษต่อร่างกาย หากเกิดความผิดปกติในร่างกาย อาจส่งผลต่อสมดุลของจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในทางเดินอาหาร ทำให้เราจะเห็นได้ว่าปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์มากมายในท้องตลาดเกี่ยวกับการรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ในร่างกาย โดยคำคุ้นหูที่ถูกกล่าวถึงบ่อยครั้งคือ “โพรไบโอติกส์” และ “พรีไบโอติกส์” มีความแตกต่างกัน ดังนี้

โพรไบโอติกส์คืออะไร ?

โพรไบโอติกส์ (Probiotics) เป็นจุลินทรีย์ขนาดเล็กซึ่งจัดเป็นกลุ่มจุลินทรีย์ชนิดดี สามารถพบได้ในลำไส้ หรืออาหาร เช่น นมเปรี้ยว โยเกิร์ต กิมจิ มิโสะ เป็นต้น ผู้เชี่ยวชาญด้านทางเดินอาหาร ให้คำจำกัดความว่า โพรไบโอติกส์ คือ “จุลินทรีย์ที่มีชีวิต เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะทำให้สุขภาพดีในภาวะต่างๆ โดยเป็นจุลินทรีย์ที่มีคุณสมบัติทนต่อกรดและด่าง สามารถจับที่บริเวณผิวของเยื่อบุลำไส้แล้วผลิตสารต่อต้านหรือกำจัดเชื้อจุลินทรีย์ชนิดอื่นๆ รวมถึงก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพได้”

พรีไบโอติกส์คืออะไร ?

พรีไบโอติกส์ (Prebiotics) คืออาหารชนิดหนึ่ง เป็นสิ่งไม่มีชีวิต ซึ่งร่างกายไม่สามารถย่อยและดูดซึมได้ที่ลำไส้เล็ก อาหารเหล่านี้จึงสามารถเข้าสู่ลำไส้ใหญ่ได้ในรูปไม่เปลี่ยนแปลง และจะถูกย่อยสลายโดยแบคทีเรียโพรไบโอติกส์ ทำให้กระตุ้นการเจริญเติบโตและการทำงานของแบคทีเรีย พบได้ในหัวหอม กระเทียม ถั่วเหลือง ถั่วแดง ไฟเบอร์ในผักและผลไม้ต่าง ๆ ในโยเกิร์ตผลไม้ เป็นต้น

แล้วพรี-โพไบโอติกส์ ทำงานร่วมกันอย่างไร ? อธิบายง่าย ๆ ให้เห็นภาพ ก็คือ โพรไบโอติกส์ เปรียบเสมือนปลาที่เราเลี้ยงไว้ในลำไส้ มีหน้าที่ทำให้ร่างกายเกิดการสมดุล ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ และพรีไบโอติกส์เปรียบเหมือนอาหารที่ใช้เลี้ยงปลา ทำให้ปลาแข็งแรงและทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น (พรีไบโอติกส์เป็นอาหารของโพรไบโอติกส์นั่นเอง) ดังนั้นหากรับประทานอาหารที่มีพวกพรีไบโอติกส์ก็จะช่วยส่งเสริมฤทธิ์โพรไบโอติกส์ได้ดียิ่งขึ้นด้วย

ประโยชน์ในด้านต่างๆ จากโยเกิร์ตที่คนรักสุขภาพต้องรู้

ผู้บริโภคหลายๆ คนอาจไม่ทราบว่านอกจากเรื่องการขับถ่ายแล้ว โยเกิร์ตนั้นมีประโยชน์อื่นๆ อีกหลายอย่าง เช่น

กินโยเกิร์ตทุกวัน หน้าใส จริงไหม?

จากที่ทราบกันดีว่า โยเกิร์ตนั้นมีประโยชน์ที่ช่วยในเรื่องของการขับถ่าย ซึ่งเมื่อขับถ่ายสะดวก ลำไส้สะอาด ใบหน้าของเราก็ต้องใสอย่างแน่นอน แต่รู้หรือไม่ว่า โยเกิร์ตนั้นสามารถนำมาพอกหน้าเพื่อบำรุงผิวพรรณ และบรรเทาการอักเสบของสิวได้อีกด้วย ซึ่งโยเกิร์ตเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง และไม่เป็นอันตรายต่อผิว อีกทั้งยังช่วยให้ผิวนุ่มขึ้นด้วยนั่นเอง

ประโยชน์โยเกิร์ตที่มีต่อสุขภาพของผู้หญิง

จุลินทรีย์ทั่วไปอาจทำร้ายร่างกาย แต่แลคโตบาสิลัสในโยเกิร์ตเป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ร่างกายต้องการ มันจะไปหยุดการเจริญเติบโตของเชื้อ “เฮลิโคแบคเตอร์ เอชไพโลไร” ที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะ ลดการอักเสบของลำไส้และไขข้อ แถมยังทำตัวเป็นนักปราบปรามจุลินทรีย์ที่จะทำให้คุณเป็นมะเร็งปากมดลูก ช่วงที่มีรอบเดือนผู้หญิงจึงควรทานโยเกิร์ตเป็นประจำ อีกทั้งแคลเซียมสูงที่ได้จากโยเกิร์ตจะทำให้เป็นสาวกระดูกเหล็ก ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน ความดันสูง มะเร็งลำไส้ และยังกระตุ้นระบบเผาผลาญทำให้คุณผอมเองโดยไม่ต้องเหนื่อย

โยเกิร์ต ช่วยย่อย

โยเกิร์ตย่อยง่าย เพราะน้ำตาลแลคโตสเป็นตัวหลักที่ทำให้เกิดการแพ้นมหรือท้องเสียถูกเปลี่ยน เป็นกรดแลคติกที่ย่อยง่าย นอกจากนั้นแบคทีเรียในโยเกิร์ตยังมีเอนไซม์ช่วยย่อยโปรตีนนม เคซีน ซี่งเป็นโปรตีนย่อยยาก ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายขึ้น ลดปัญหาภูมิแพ้ต่อน้ำตาลแลคโตสและ โปรตีนเคซีน

โยเกิร์ต ช่วยขับถ่าย

ในโยเกิร์ตมีโพรไบโอติกส์ แบคทีเรียชนิดดีต่อลำไส้และระบบย่อยอาหาร ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย พร้อมทั้งโพรไบโอติกส์ยังจะช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ ส่งผลให้สุขภาพโดยรวมของร่างกายดีขึ้นด้วย โดยเฉพาะหากกินโยเกิร์ตตอนท้องว่าง ในช่วงเช้า หรือก่อนเข้านอน จุลินทรีย์ชนิดดีและโพรไบโอติกส์จะเข้าไปจัดระเบียบบรรดาสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ ภายในกระเพาะอาหารและลำไส้ เช้ามาก็จะขับถ่ายคล่องตัวและง่ายขึ้นกว่าเดิมด้วย

อย่างไรก็ตาม ทุกๆ คนจะได้เห็นแล้วว่าจุลินทรีย์ทั้ง พรีไบโอติกส์ และ โพรไบโอติกส์ ถือเป็นคู่จุลินทรีย์ที่สำคัญที่คอยส่งเสริมกันในเรื่องการทำงานเสมอ จริงอยู่ที่การรับประทานอาหารที่มีโพรไบโอติกส์ก็สามารถช่วยในเรื่องระบบการย่อยได้ดี แต่การมีฝ่าย support ที่ดีอย่างพรีไบโอติกส์นั้นก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรปฏิเสธเช่นกัน

BUTTERFLY Pro Plus Drinking Yogurt จาก Butterfly Organic

โยเกิร์ตสูตรใหม่จาก Butterfly Organic ที่จะทำให้การทานพรีไบโอติกส์และ โพรไบโอติกส์ ของคุณง่ายขึ้น  เนื่องด้วยมีคุณสมบัติหลายอย่างที่นอกจากจะช่วยในเรื่องของการกระตุ้นการขับถ่ายและให้ประโยชน์ต่างๆ แก่ร่างกายแล้ว ก็ยังช่วยให้ผู้บริโภคมีความสะดวกในการรับประทานจุลินทรีย์ทั้ง 2 ในคราวเดียวอีกด้วย

โดยจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ โพรพลัส โยเกิร์ตพร้อมดื่ม ตรา บัตเตอร์ฟลาย
– มีชนิดจุลินทรีย์ที่ดีมากถึง 7 สายพันธุ์ (เชื้อโพรไบโอติกส์* 5 สายพันธุ์ + เชื้อโยเกิร์ต 2 สายพันธุ์)
– มีปริมาณจุลินทรีย์มีชีวิต 40,000 หมื่นล้านตัวต่อขวด (Live Active Cultures > 40,000 CFU/Bottle)
– มีทั้ง Probiotic และ Prebiotic  (ใช้ Inulin Fiber  (Fructo oligosaccharide)  เป็น Prebiotic)
– ผสมระหว่าง Probiotic Yogurt กับ Super Food Super Fruits เช่น พุทราจีน ,  Acai berry และ  Kale       
– ใช้น้ำผึ้งแท้เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาล

ด้วยคุณสมบัติต่างๆ ที่ได้กล่าวมา ก็อาจทำให้ผู้บริโภคและผู้อ่านเห็นแล้วว่า ไม่จำเป็นต้องทานโยเกิร์ตแบบพรีไบโอติกส์และโพรไบโอติกส์แยกกันอีกต่อไป แถมยังเป็นจุลินทรีย์ทั้ง 2 ชนิดดังกล่าวที่มาจากแหล่งธรรมชาติอีกด้วย ถือว่าเป็นความ Healthy ที่ได้ถึง 2 ต่อที่เราคัดสรรมาให้ผู้บริโภคเลยทีเดียว (สามารถสั่ง Pro Plus Drinking Yogurt ผ่าน LINE OFFICIAL Butterfly Organic ได้แล้ววันนี้ )

FAQ : คำถามที่พบบ่อย

ควรกินโยเกิร์ตเวลาไหน

การทานโยเกิร์ตในแต่ละช่วงเวลา  มีข้อดีต่างกัน 

– ทานตอนเช้า 
หรือตอนท้องว่าง ร่างกายจะดูดซึมประโยชน์ได้อย่างเต็มที่สุดๆ

– ทานตอนกลางวัน 
จุลินทรีย์จะช่วยปรับสมดุลในระบบลำไส้ ทำให้ลำไส้ทำงานเบาลง

– ทานตอนเย็นหรือช่วงค่ำ 
ช่วยให้ระบบย่อยอาหาร ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

– ทานตอนก่อนนอน 
ช่วยส่งเสริมให้เกิดความรู้สึกง่วงนอน และช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนที่ช่วยให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ทำให้นอนหลับง่ายกว่าเดิม

โยเกิร์ตกินตอนท้องว่างได้ไหม

โยเกิร์ต ประกอบด้วยโพรไบโอติกส์ ซึ่งเป็นแบคทีเรียดีที่ช่วยให้ลำไส้แข็งแรง แต่ถ้าคุณรับประทานมันตอนท้องว่าง กรดไฮโดรคลอริกซึ่งกระเพาะอาหารหลั่งออกมาจะทำอันตรายต่อแบคทีเรียได้ จึงควรรับประทานโยเกิร์ตหลังมื้ออาหารจะดีกว่า

บทความล่าสุด

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ Privacy Policy และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า