สารบัญบทความ
Toggleท้องเสีย ระบบขับถ่ายไม่ดี ปัญหาสามัญที่ทุก ๆ คนต้องเคยเจอ และพบได้ในทุกเพศ ทุกวัย อีกด้วย แม้การขับถ่ายจะเป็นเรื่องจำเป็นของการดำรงชีวิต แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันก็เป็นหนึ่งในหลาย ๆ ปัญหาที่ถ้าหากเกิดอาการเรื้อรัง ก็เสี่ยงทำให้เราเป็นโรคร้ายแรงอยู่ดี อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้ภาวะดังกล่าวเกิดขึ้น เราจึงจำเป็นต้องเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยสร้างภูมิต้านทานให้กับลำไส้ของเราให้ดีมากขึ้น หนึ่งในอาหารดังกล่าวคือ “โยเกิร์ต” นั่นเอง ซึ่งแม้จะมีภาพจำที่ช่วยให้ขับถ่ายง่าย แต่แท้จริงแล้วโยเกิร์ตก็สามารถช่วยแก้ไขปัญหาท้องเสียได้อีกด้วย ซึ่งจะเป็นอย่างไรนั้น Butterfly มีคำตอบ
ท้องเสียเกิดจากอะไร
ท้องเสีย ภาษาอังกฤษ คือ Diarrhea เป็นอาการถ่ายอุจจาระเหลว หรือถ่ายเป็นน้ำตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไปภายใน 24 ชม. โดยทั่วไปอาการท้องเสียมักเกิดขึ้น และอาจหายไปได้เองภายใน 2-3 วัน หรือด้วยการทานยาสามัญประจำบ้าน เช่น ยาผงถ่านคาร์บอน โดยอาการท้องเสียหรืออุจจาระร่วง มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือพยาธิ ในระบบทางเดินอาหาร หรืออาจเป็นอาการลำไส้แปรปรวน ผู้อ่านสามารถศึกษาภาวะอาการนี้ได้ที่ >> “ลำไส้แปรปรวน” หายเองได้ไหม กินโยเกิร์ตเยอะ ๆ แล้วช่วยบรรเทาได้จริงหรือเปล่า ซึ่งในกรณีที่มีอาการรุนแรงอาจทำให้ร่างกายขาดสารน้ำจนอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ ถ้ามีอาการท้องเสียที่มีมูกเลือดปน ตั้งแต่ 1 ครั้งขึ้นไป ควรรีบพบแพทย์
ท้องเสีย อาการเบื้องต้นมีอะไรบ้าง
อาการท้องเสีย หรืออุจจาระร่วงมีระดับความรุนแรงแตกต่างกันไป ตั้งแต่ระดับเบาไปจนถึงระดับรุนแรง ทั้งนี้อาการท้องเสียในระดับที่รุนแรงอาจมีความเชื่อมโยงกับโรคที่มีความซับซ้อนบางชนิดที่ต้องได้รับวินิจฉัย และทำการรักษาโดยแพทย์ อาการของโรคท้องเสียมี ดังนี้
– ปวดท้อง ปวดเกร็ง หรือปวดบิด
– ท้องอืด ท้องเฟ้อ
– คลื่นไส้ อาเจียน
– มีไข้ ปวดศีรษะ
– หน้าแดง และผิวแห้ง
– อุจจาระมีเลือดปน
– อุจจาระมีมูก หรือเมือกปน
– ถ่ายอุจจาระบ่อย
ท้องเสียเกิดจากอาหารมื้อไหน เราจะรู้ได้อย่างไร?
เป็นคำถามที่หลาย ๆ คนคิดไม่ตกว่ามื้ออาหารที่เป็นสาเหตุของการถ่ายท้องนั้น คือมื้อไหนกันแน่ เพราะในวันต่อวันเรารับประทานอาหารกันหลายมื้อ หากแบ่ง ๆ หลัก ๆ ก็3 มื้อ ซึ่งยังไม่รวมเครื่องดื่ม หรือ ขนม ที่รับประทานยามว่าง ฉะนั้น จึงไม่แปลกที่เมื่อเกิดอาการ เราจะสงสัยว่าเราไปกินอะไรมา
โดยวิธีการคำนวณที่พอจะสามารถทำได้คือ ให้เรานับถอยหลังตั้งแต่เริ่มมีอาการถ่ายเหลวไป 6 ช.ม. เช่น ถ้าเริ่มมีอาการตั้งแต่ 21.00 น. นั่นอาจเป็นไปได้ว่ามื้อที่เป็นสาเหตุที่รับประทานไปตอนช่วงประมาณ 15.00-16.00 นั่นเอง เพราะเชื้อแบคทีเรีย / ไวรัส ต้องใช้ระยะเวลาฟักตัว ดังนั้น จึงไม่ใช่มื้อล่าสุดอย่างแน่นอน
ท้องเสียบ่อย ถ่ายเป็นน้ำ ดูแลตนเองอย่างไรดี
จากที่ได้กล่าวไปว่า อาการท้องเสีย นั้นแม้จะเป็นหนึ่งในภาวะที่หลายๆ คนเคยพบเจอกันอยู่บ้าง อาการท้องเสียของบางคนก็ค่อยๆ ดีขึ้นและหายไปเอง แต่ในบางคนกลับเรื้อรังติดต่อกันหลายวัน ซึ่งความน่ากังวลสำหรับอาการท้องเสียก็คือ การปล่อยให้มีอาการท้องเสียเรื้อรังนานเกินไปจนร่างกายขาดน้ำ มีไข้สูง และเกิดภาวะช็อกจากการขาดน้ำและเกลือแร่มากเกินไป เพราะฉะนั้น เราควรเข้าใจถึงความผิดปกติของอาการว่าแบบไหนแค่ถ่ายท้องปกติ แบบไหนที่เข้าข่ายท้องเสีย เพื่อนำไปสู่การรักษาที่ถูกต้อง
วิธีแก้ท้องเสียแบบเบื้องต้น
การรักษาและข้อควรปฏิบัติเมื่อท้องร่วง – โดยปกติแล้วผู้ที่มีอาการท้องร่วงจะสามารถหายได้เองและส่วนใหญ่จะมีอาการที่ไม่รุนแรง โดยพบว่าผู้ป่วยส่วนน้อยที่มีอาการรุนแรงจนเป็นอันตรายถึงขึ้นเสียชีวิตได้ สำหรับผู้ที่มีอาการท้องร่วงสามารถดูแลตัวเองในเบื้องต้นได้ดังนี้
– ดื่มน้ำเกลือแร่ (ORS) บ่อยๆ เพื่อทดแทนการสูญเสียน้ำและเกลือแร่
– รับประทานอาหารอ่อนๆ ย่อยง่าย เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก แกงจืด
– งดอาหารรสจัด เช่น เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด ของหมักดองต่างๆ
– หลีกเลี่ยงอาหารสุกๆ ดิบๆ เน้นการรับประทานอาหารที่ปรุงสุก ถูกสุขลักษณะ
ท้องเสียกินอะไรได้บ้าง อาหารชนิดไหนต้านอาการท้องเสีย
ท้องเสียกินอะไรดี? ในขณะที่ท้องเสียนั้น สิ่งสำคัญที่เราต้องทำคือพยายามรับประทานอาหารที่ช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูและปรับสมดุลลำไส้ให้ดีขึ้น ซึ่งอาหารที่ผู้ประสบปัญหาการถ่ายท้องควรรับประทานอาหารชนิดดังต่อไปนี้…
1. อาหารย่อยง่าย
หากมีอาการท้องเสีย ไม่ว่า ท้องเสียแบบเฉียบพลัน หรือท้องเสียแบบเรื้อรัง ไม่ควรงดรับประทานอาหาร แต่ให้เลือกรับประทานอาหารอ่อน ที่สะอาด ปรุงสุก และย่อยง่าย เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ซุปเต้าหู้ เนื้อปลา ชดเชยภาวะร่างกายขาดน้ำ หรือภาวะร่างกายสูญเสีย วิตามิน เกลือแร่ หรือสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด และอาหารมันจัด เนื่องจากทำให้เกิดการระคายเคืองของทางเดินอาหาร รวมทั้งอาจทำให้อาการท้องเสียแย่ลง
2. น้ำขิงอุ่น ๆ
เป็นเพราะขิงมีคุณสมบัติที่ช่วยลดการอักเสบ การระคายเคืองในลำไส้ให้ลดลงได้ ดังนั้นจึงเป็นการช่วยลดอาการท้องเสียได้ด้วยนั่นเอง
3. รับประทานทานโยเกิร์ต
การกินโยเกิร์ตที่มีโพรไบโอติก ซึ่งเชื้อแบคทีเรียตัวนี้เป็นแบคทีเรียที่ดีต่อระบบทางเดินอาหาร สามารถช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย กระตุ้นให้ลำไส้กลับมาทำงานได้อย่างเป็นปกติเหมือนเดิม ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ท้องเสียจากการรับประทานยาปฏิชีวนะมากเกินไป เกิดขึ้นเพราะยาปฏิชีวนะมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียหรือจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อระบบทางเดินอาหาร เมื่อจุลินทรีย์ที่ดีต่อระบบทางเดินอาหารลดลงจึงทำให้ทางเดินอาหารผิดปกติได้ อาหารที่แนะนำหลังจากที่หายจากท้องเสียแล้ว คือ อาหารที่มีเชื้อจุลินทรีย์ที่ดีต่อระบบทางเดินอาหาร เช่น แลคโตบาซิลลัส และบิฟิโดแบคทีเรียม เช่น โยเกิร์ต หรือนมเปรี้ยว สำหรับใครที่สนใจหาเมนูโยเกิร์ตใหม่ ๆ ติดตามต่อได้ที่ >> โยเกิร์ตผลไม้ มีดีอย่างไร พร้อมแชร์เมนูโยเกิร์ตกับผลไม้ที่ทั้งดีและมีประโยชน์
โยเกิร์ตแก้ท้องเสีย อีกหนึ่งสรรพคุณที่หลายคนอาจไม่เคยรู้
การรับประทานโยเกิร์ตวันละ 1 ถ้วยนั้น ช่วยทำให้เราสุขภาพดี ไม่ว่าจะเป็น โยเกิร์ตเนื้อคงตัว >> Yogurt greek ทำไมถึงเป็นอาหารสุขภาพที่เหมาะกับคนลดน้ำหนัก นักเพาะกาย คนเล่นเวท หรือ โยเกิร์ตธรรมชาติ ในขนาด 100 กรัม 1 ถ้วย ก็สามารถให้สารอาหารที่มีประโยชน์ใกล้เคียงกับนมสด 1 แก้ว ได้แก่ แคลเซียม โปรตีนที่มีคุณภาพ คาร์โบไฮเดรต รวมทั้งวิตามิน เอ บี 2 และบี 12 แถมโยเกิร์ตส่วนใหญ่มีการเติมนมผงพร่องมันเนยไปด้วย จึงมีปริมาณโปรตีน แคลเซียม และพลังงานพอ ๆ กับนมที่มีแคลเซียมสูงนั่นเอง
เวลาเราท้องเสีย เป็นเพราะมีเชื้อจุลินทรีย์อยู่ในลำไส้ แต่เชื้อจุลินทรีย์ในโยเกิร์ตสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียชนิดเลวทั้งหลาย การรับประทานโยเกิร์ตจึงทำให้อาการท้องเสียทุเลาอย่างรวดเร็ว ทำให้ถ่ายน้อยลงหรือหยุดถ่าย ทั้งนี้ นอกจากโยเกิร์ตแล้ว ก็ยังมีจุลินทรีย์ดีอยู่ในอาหารอื่น ๆ อีก อ่านเพิ่มเติมได้ที่ >> จุลินทรีย์ในอาหารมีกี่ชนิด และชนิดไหนที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายของเรา
ทั้งนี้แคลเซียมสูงที่ได้จากโยเกิร์ตจะช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน ความดันโลหิตสูง มะเร็งลำไส้ และทำให้ปากสะอาด กำจัดกลิ่นปากและโรคเหงือก บรรเทาอาการกรดไหลย้อน และเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย เพราะแบคทีเรียในโยเกิร์ตทำให้ร่างกายสังเคราะห์วิตามินเคและบีในลำไส้ได้ดีขึ้นอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม แม่โยเกิร์ตจะสามารถช่วยให้อาการถ่ายท้องดีขึ้นได้ แต่ก็ใช้ว่าผลิตภัณฑ์นมจะดีต่อภาวะอาการนี้เสมอไป ซึ่งบางเคสอาจมีผู้ที่ท้องเสียจากการดื่มนมด้วยเช่นกัน หากอยากทราบว่าเป็นเพราะอะไรนั้น สามารถตามต่อได้ที่ >> “กินนมแล้วท้องเสีย” อาจไม่ได้แพ้นม อันตรายจากความเข้าใจผิดที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อเป็นการป้องกันอีกทางหนึ่ง
โยเกิร์ตออแกร์นิคจาก Butterfly
โยเกิร์ตออร์แกนิคของเราไม่ใช่แค่วัวที่เลี้ยงแบบกินหญ้า Grass Fed เท่านั้นแต่เป็นวัวที่กินหญ้าออร์แกนิค 100% (certified organic) ไม่มีการใช้ยาปฏิชีวนะหรือสารเคมีใด ๆ ทั้งกับตัววัวและพื้นที่ในฟาร์มเราปล่อยวัวให้เดินเล่นในทุ่งกว้าง ไม่มีการกักขังเพื่อให้วัวของเราได้มีสุขภาพแข็งแรง อารมณ์ดี เพื่อให้ผลผลิตดีตามไปด้วย โดยเฉพาะการอุดมไปด้วยสารที่จำเป็นต่อกระดูก เช่น แคลเซียมและฟอสฟอรัส จนเราได้รับการปิดฉลากจากมาตรฐานออร์แกนิค USDA (NOP) องค์กรที่ดูแลผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจากประเทศสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ดีเพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าโยเกิร์ตของเราปลอดภัย ไร้สารเจือปนส่งตรงมาจากฟาร์มอย่างแน่นอน สำหรับผู้ที่สนใจสั่งสินค้าและดูสินค้าเพิ่มเติมสามารถติดตามผ่านไลน์ได้ที่นี่ LINE SHOP BUTTERFLY ORGANIC
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
กรีกโยเกิร์ต ไม่มีน้ำตาล กับเมนู 3 สไตล์ที่คนรักสุขภาพไม่ควรพลาด
โยเกิร์ตจากพืชมีอะไรบ้าง กับ 5 เหตุผลที่ทำไมคนถึงเลือกกิน
plain yogurt คืออะไร แตกต่างจากโยเกิร์ตชนิดอื่นหรือไม่ ดีต่อสุขภาพหรือเปล่า?
คำถามที่พบบ่อย
โดยทั่วไปอาการท้องเสียมักเกิดขึ้น และอาจหายไปได้เองภายใน 2-3 วัน หรือด้วยการทานยาสามัญประจำบ้าน
จริงๆ แล้วอาหารทุกชนิด หากมีการปนเปื้อน หรือทิ้งไว้นาน ๆ หลังปรุงสุก ก็มักเป็นสาเหตุของการท้องเสียได้ง่าย แต่อาหารที่จะต้องระวังเป็นพิเศษก็มี เช่น
– อาหารทะเล
– หมูกระทะ ที่ปรุงไม่สุกพอ
– ส้มตำ ลาบ ก้อยดิบ
– ยำต่างๆ เช่น กุ้งเต้น ยำหอยแครง
– อาหารหรือขนมที่มีกะทิ หรือราดด้วยกะทิสด
ฯลฯ