สารบัญบทความ
Toggleท้องผูก ท้องผูกถ่ายยาก ทำยังไงก็ไม่ดีขึ้นสักที เชื่อว่าเป็นปัญหาของใครหลาย ๆ คนที่กำลังเผชิญอยู่ เรียกได้ว่าอาการนี้ถือเป็นปัญหาการขับถ่ายอันดับต้น ๆ ที่ทำให้หลายคนต้องทนทุกข์ทรมานในการที่จะเข้าห้องน้ำแต่ละครั้ง อีกทั้งหากทิ้งไว้หลายวันก็ยิ่งทำให้อึดอัด ไม่สบายตัว
อย่างไรก็ดี หากจะพูดถึงตัวช่วยที่สามารถทำให้การขับถ่ายดีขึ้นได้ สิ่งที่ทุกคนจะนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ ก็คือ โยเกิร์ต นั่นเอง ยิ่งไปกว่านั้น มันยังช่วยไปถึงการสร้างให้ลำไส้ของเราแข็งแรงมากขึ้นอีกด้วย ดังนั้น เพื่อไขข้อสงสัยให้กับผู้อ่านว่าโยเกิร์ตสามารถทำได้ดังที่กล่าวมาหรือไม่ บทความนี้มีคำตอบ
ท้องผูกเกิดจากอะไร
สาเหตุท้องผูกมีอยู่หลายประการด้วยกัน เช่น…
– การปฏิบัติตัวที่ไม่ถูกต้อง เช่น รับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย ดื่มน้ำน้อย ไม่ออกกำลังกายหรือไม่ค่อยเคลื่อนไหวร่างกาย กลั้นอุจจาระบ่อย ๆ ซึ่งผู้ที่มีอาการท้องผูกมากถึง 50% มีสาเหตุมาจากพฤติกรรมหล่านี้
– การเบ่งถ่ายอุจจาระผิดวิธี แพทย์พบว่า 30% ของอาการท้องผูกเกิดจากการทํางานไม่ประสานกันของกล้ามเนื้อที่ควบคุมการเบ่งอุจจาระ นั่นคือมีการออกแรงเบ่งพร้อมกับขมิบหูรูดทวารหนักไปด้วย เมื่อแรงเบ่งมีไม่มากพอที่จะเอาชนะแรงต้านบริเวณหูรูด อุจจาระก็ไม่สามารถจะเคลื่อนออกมาได้
– การทำงานของลำไส้ใหญ่ผิดปกติ หรือภาวะลำไส้เฉื่อย เป็นการที่ลำไส้ใหญ่เคลื่อนไหวน้อยลงทําให้อุจจาระเคลื่อนลงมาช้ากว่าปกติ
ท้องผูกอาการเป็นยังไง หากมีอาการรุนแรงจะส่งผลอย่างไรบ้าง?
ท้องผูกอาการเป็นไง มีแต่อาการอึยากเท่านั้นหรือ? ต้องบอกก่อนว่าสำหรับปัญหาการขับถ่ายยากนั้น มีอาการแสดงอยู่มากมาย ซึ่งในบางอาการแม้จะเป็นการที่ผู้ประสบปัญหามีอาการนาน ๆ ขับถ่ายครั้ง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าภาวะอาการดังกล่าวคืออาการท้องผูกเสมอไป
ซึ่งทางการแพทย์ระบุถึงอาการต่าง ๆ ต่อไปนี้ว่าผู้ป่วยภาวะท้องผูก เช่น…
– ปวดท้องท้องผูก
– อุจจาระเป็นก้อนแข็งกว่าปกติ
– รู้สึกถ่ายอุจจาระไม่สุด
– มีความรู้สึกว่าถ่ายไม่ออกเนื่องจากมีสิ่งอุดกั้นบริเวณทวารหนัก
– ถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้ง/สัปดาห์
– เวลาถ่ายอุจจาระต้องเบ่งมากกว่าปกติ
วิธีแก้ท้องผูกง่าย ๆ เริ่มต้นด้วยวิธีไหนได้บ้าง?
ท้องผูกถ่ายไม่ออก, ท้องผูกทำไงดี เชื่อได้ว่าเป็นคำถามที่ผู้ประสบปัญหาพยายามหาคำตอบ ซึ่งแน่นอนว่าปัญหาการขับถ่ายประเภทนี้ผู้ป่วยย่อมอยากหาวิธีบรรเทาด้วยตนเองก่อนเข้าพบแพทย์ ซึ่งวิธีแก้ไขปัญหาขับถ่ายยากก็มีหลายวิธีด้วยกัน ดังนั้น เรามาดูกันดีกว่าว่าวิธีแก้ปัญหาท้องผูกมีอะไรบ้าง
– ดื่มน้ำให้มากพอเพื่อให้อุจจาระอ่อนนุ่มถ่ายง่าย
– ออกกำลังกายและเคลื่อนไหวร่างกายอยู่เสมอ เพื่อให้ลำไส้เคลื่อนไหวได้ดีขึ้น และฝึกขับถ่ายให้เป็นธรรมชาติ
– รับประทานอาหารเช้าทุกวัน เพราะอาหารเช้าช่วยให้กระเพาะอาหารขยายตัวแล้วไปกระตุ้นให้ลำไส้ใหญ่ทำงานเกิดเป็นความรู้สึกอยากถ่าย โดยควรเผื่อเวลาสำหรับการเข้าห้องน้ำหลังอาหารเช้าและการเดินหลังอาหารประมาณครึ่งชั่วโมงไว้ด้วย เพราะความรู้สึกอยากถ่ายนั้นเกิดขึ้นเพียงประมาณ 2 นาทีเท่านั้น
– รับประทานอาหารที่มีกากใยหรือไฟเบอร์มากขึ้น เพื่อเพิ่มปริมาณอุจจาระและกระตุ้นการเคลื่อนตัวภายในลำไส้ใหญ่ให้เร็วขึ้น
– รับประทานอาหารที่มีโพรไบโอติกเนื่องจากโพรไบโอติกมีส่วนช่วยในการทำงานของลำไส้โดยสังเคราะห์กรดอะมิโนที่จะกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้
ท้องผูก กินอะไรดี ช่วยให้ขับถ่ายง่ายขึ้น
ท้องผูกควรกินอะไร คำถามที่มักเกิดขึ้นมาเมื่อหลาย ๆ คนเริ่มขับถ่ายไม่ออก หรือ เริ่มรู้สึกว่าระบบขับถ่ายไม่ดี ซึ่งหากอิงตามข้อมูลด้านบน อาหารที่ควรรับประทานเมื่อขับถ่ายยากควรเป็นอาหารที่ยกตัวอย่างดังต่อไปนี้
อาหารที่มีใยอาหารสูง
อาหารที่มีใยอาหารสูงมักพบมากในผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี เนื่องจากพวกมันเป็นแหล่งอาหารที่ช่วยแก้ท้องผูกได้อย่างดีเยี่ยมเพราะมีใยอาหารที่สูง และนอกจากจะเพิ่มใยอาหารเพื่อช่วยกระตุ้นการขับถ่ายแล้วในถั่วบางชนิด เช่น ถั่วแดง ยังช่วยให้แบคทีเรียในร่างกายมีความสมดุลอีกด้วย
น้ำสะอาด น้ำอุ่น/น้ำมะนาวผสมน้ำอุ่น/ดื่มนม
นอกจากอาหารแก้ท้องผูกที่ว่ามาแล้ว อย่าลืมว่าน้ำก็เป็นเครื่องดื่มสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะการดื่มน้ำสะอาดหลจากตื่นนอน จะยิ่งช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ช่วยลำเลียงอาหารในลำไส้ให้เคลื่อนตัวได้ดี มีการขับถ่ายของเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยควรเลือกดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำอุณหภูมิปกติจะดีที่สุด
อาหารที่มีโพรไบโอติก
โพรไบโอติก คือจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยลดการอักเสบในลำไส้ ช่วยกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวของลำไส้เพื่อการขับถ่ายได้ โพรไบโอติกพบมากใน นมเปรี้ยว โยเกิร์ต
โยเกิร์ตแก้ท้องผูก คือโยเกิร์ตแบบไหน มีวิธีเลือกรับประทานยังไง
“โยเกิร์ต” ถือเป็นอาหารแก้ท้องผูกเรื้อรังที่ทุก ๆ คนต้องนึกถึง สำหรับโยเกิร์ตที่สามารถช่วยบรรเทาอาการขับถ่ายยากได้นั้นมักมีจุดเด่นเป็นโยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์ดีหลาย ๆ ชนิด เพราะจุลินทรีย์ในโยเกิร์ตแต่ละประเภทต่างช่วยให้การทำงานของลำไส้ดีขึ้น ทั้งนี้ยังช่วยปรับสมดุลให้กับลำไส้ได้อีกด้วย ดังนั้น วิธีการเลือกซื้อโยเกิร์ตที่ช่วยในการขับถ่าย ผู้บริโภคจึงควรเน้นไปที่โยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์สูงก่อนเป็นอันดับแรก หากอยากทราบว่าในการกินโยเกิร์ตเราควรได้จุลินทรีย์ตัวใดบ้าง อ่านต่อที่ >> โยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์สูง คืออะไร มีลักษณะอย่างไร กินแล้วต้องได้จุลินทรีย์ตัวไหนบ้าง ?
โยเกิร์ต+โพรไบโอติก สองสิ่งคู่กันลดปัญหาการขับถ่าย
เป็นที่รู้กันดีว่าการเพิ่มแบคทีเรียและจุลินทรีย์เป็นหนึ่งในกระบวนการผลิต โยเกิร์ต นั่นจึงทำให้ในโยเกิร์ตประกอบด้วยจุลินทรีย์และแบคทีเรียชนิดดีที่มีส่วนช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะโพรไบโอติกซึ่งเป็นจุลินทรีย์ชนิดดี ดังนั้น จึงทำให้โยเกิร์ตที่มีโพรไบโอติกสูงมีส่วนช่วยในกระบวนการย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหารที่บริเวณลำไส้ ทำให้กากอาหารต่าง ๆ ถูกย่อยออกไปได้มากขึ้น อุจจาระมีขนาดเล็กลง สามารถขับถ่ายออกได้โดยง่าย ช่วยแก้อาการท้องผูกนั่นเอง
โยเกิร์ตออแกร์นิคจาก Butterfly Organic
โยเกิร์ตออร์แกนิคของเราไม่ใช่แค่วัวที่เลี้ยงแบบกินหญ้า Grass Fed เท่านั้นแต่เป็นวัวที่กินหญ้าออร์แกนิค 100% (certified organic) ไม่มีการใช้ยาปฏิชีวนะหรือสารเคมีใด ๆ ทั้งกับตัววัวและพื้นที่ในฟาร์ม
เราปล่อยวัวให้เดินเล่นในทุ่งกว้าง ไม่มีการกักขังเพื่อให้วัวของเราได้มีสุขภาพแข็งแรง อารมณ์ดี เพื่อให้ผลผลิตดีตามไปด้วยจนเราได้รับการปิดฉลากจากมาตรฐานออร์แกนิค USDA (NOP) องค์กรที่ดูแลผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจากประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยโยเกิร์ตจาก Butterfly นั้นนอกจากความออร์แกนิคแล้วก็ยังมีความโดดเด่นในเรื่องโพรไบโอติกเช่นเดียวกัน…
มีจุลินทรีย์โพรไบโอติก (Probiotic) และจุลินทรีย์มีชีวิต (Live YogurtCultures)
เชื้อจุลินทรีย์ที่ใช้ประกอบด้วย : Lactobacillusrhamnosus, Lactobacillus delbrueckii subsp. bulgaricus, Streptococcus thermophilus
อย่างไรก็ดีเพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าโยเกิร์ตของเราปลอดภัย ไร้สารเจือปนส่งตรงมาจากฟาร์มอย่างแน่นอน สำหรับผู้ที่สนใจสั่งสินค้าและดูสินค้าเพิ่มเติมสามารถติดตามผ่านไลน์ได้ที่นี่ LINE SHOP BUTTERFLY ORGANIC
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
“ลำไส้แปรปรวน” หายเองได้ไหม กินโยเกิร์ตเยอะ ๆ แล้วช่วยบรรเทาได้จริงหรือเปล่า
อาหารไม่ย่อยทำไงดี กินโยเกิร์ตบ่อย ๆ ช่วยย่อยอาหารได้จริงหรือ?
โยเกิร์ตผลไม้ มีดีอย่างไร พร้อมแชร์เมนูโยเกิร์ตกับผลไม้ที่ทั้งดีและมีประโยชน์
คำถามที่พบบ่อย
หนึ่งในโยเกิร์ตที่ช่วยจัดการเรื่องระบบขับถ่ายได้ดีเป็นอันดับต้น ๆ นั้นมักมีจุดเด่นเป็นโยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์ดีหลาย ๆ ชนิด เพื่อช่วยให้การทำงานของลำไส้ดีขึ้น ทั้งนี้ยังช่วยปรับสมดุลให้กับลำไส้อีกด้วย
การกินโยเกิร์ตในช่วงเช้า, ช่วงท้องว่าง หรือก่อนนอน จะทำให้จุลินทรีย์ชนิดดีและโพรไบโอติกทำงาน ช่วยให้ระบบขับถ่ายง่ายขึ้นและคล่องตัวกว่าปกติ และหากคุณกินโยเกิร์ตไขมันต่ำติดต่อกันเป็นเวลา 1 สัปดาห์ จะช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น