สารบัญบทความ
Toggle“มีกลิ่นปาก ไม่ใช่เรื่องตลก” ประโยคยอดฮิตที่เราได้ยินกันมาอย่างยาวนานและถือเป็นเรื่องที่เราปฏิเสธไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเราหรือกับคนที่เราต้องสนทนาด้วยก็ต่างไม่ใช่เรื่องที่จะปล่อยละเลยได้ทั้งสิ้น ยิ่งในช่วงนี้ที่เกิดการแพร่ระบาด “การสวมแมสก์” ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการเกิดกลิ่นปากเช่นเดียวกัน และกลับกลายเป็นว่าใคร ๆ ก็สามารถพบกับปัญหานี้ได้
อย่างไรก็ดี หลาย ๆ คนอาจยังไม่ทราบว่า เมนูง่าย ๆ ที่เราสามารถกินได้ทุกวันอย่าง “โยเกิร์ต” ก็สามารถเป็นตัวช่วยในการบรรเทาและลดปัญหากลิ่นปากได้เช่นกัน แม้ภาพจำของเจ้านมหมักชนิดนี้จะมีเพียงแค่การช่วยลดน้ำหนักและขับถ่าย แต่ต้องบอกก่อนว่าคุณประโยชน์เกี่ยวกับการลดกลิ่นปากตามที่กล่าวมานั้นเป็นความจริง ซึ่งจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง Butterfly มีคำตอบ
กลิ่นปากเกิดจากอะไร ทำไมคนเราถึงมีกลิ่นปาก
สาเหตุของภาวะลมหายใจมีกลิ่นนั้นมักเกิดจากเศษอาหารที่ตกค้างอยู่ตามซอกฟัน บริเวณที่ทำความสะอาดได้ยาก หรือในรูฟันผุ ซึ่งจะมีเศษอาหารเน่าอยู่ รวมทั้งแผ่นคราบฟันและหินปูนที่อยู่รอบๆฟัน ซึ่งเป็นที่เก็บกักและสะสมเชื้อโรคต่างๆ บางคนพบว่าเหงือกเป็นหนองจากโรคปริทันต์ หรือมีฟันโยก
ทั้งนี้ยังรวมถึงอาหารบางชนิดเมื่อรับประทานจะมีกลิ่นขับออกมาทางลมหายใจ เช่น หัวหอม กระเทียม ทุเรียน ผู้ที่ดื่มสุรา หรือสูบบุหรี่เป็นประจำ หรือท้องผูกหลาย ๆ วัน ก็ทำให้เกิดกลิ่นปากได้ รวมทั้งผู้ป่วยโรคทางร่างกายบางอย่าง เช่น ต่อมทอนซิลอักเสบ ไซนัสอักเสบเรื้อรัง วัณโรค โรคปอด และโรคระบบทางเดินอาหาร
โดยส่วนใหญ่ภายหลังตื่นนอนใหม่ ๆ กลิ่นปากจะแรง เพราะในขณะที่นอนหลับน้ำลายจะถูกขับออกมาน้อยทำให้น้ำลายมีการหมุนเวียนน้อย เศษอาหารที่ตกค้างสะสมอยู่จึงมีการบูด เกิดเป็นกลิ่นปากค่อนข้างแรงมากกว่าปกตินั่นเอง
กลิ่นปากเกิดจากลำไส้ ปัญหาใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม
เป็นอีกหนึ่งของสาเหตุของการมีกลิ่นปากที่หลาย ๆ คนอาจไม่ทราบมาก่อนว่าลำไส้นั้นก็เป็นต้นเหตุที่ทำให้เราสามารถมีกลิ่นปากได้เช่นเดียวกัน ซึ่งอาจเกิดได้จากหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้ ผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหาร มีแผลในกระเพาะอาหาร หรือมีหนอง อาจมีกลิ่นออกมาขณะพูดหรือเรอได้
นอกจากนี้แล้วคนที่มีระบบย่อยอาหารไม่ดี อาหารไม่ย่อย ระบบขับถ่ายไม่ดี ท้องผูกบ่อยๆ ก็เป็นสาเหตุให้เกิดกลิ่นปากได้ด้วย ทั้งนี้นอกจากโรคเหล่านี้แล้วกลิ่นปากที่เกิดขึ้น อาจเกิดจากโรคอื่น ๆ ที่ส่งกลิ่นออกมาเพื่อแสดงอาการของโรคได้ เช่น โรคตับ โรคไต และโรคเบาหวาน ฯลฯ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อสาเหตุมาจากลำไส้ สิ่งสำคัญที่ผู้บริโภคสามารถทำได้ ซึ่งไม่เพียงแต่ดูแลช่องปากเท่านั้น แต่ต้องดูแลไปถึงรับถ่ายลำไส้ด้วย เพราะหากการขับถ่ายหรือระบบย่อยอาหารไม่ดี ผู้ที่ประสบปัญหานี้อยู่ก็ควรเลือกรับประทานอาหารที่ย่อยง่ายหรือมีส่วนช่วยการปรับสมดุลลำไส้ให้ทำงานดีขึ้นได้
โดยเฉพาะอาหารที่มีโพรไบโอติกซึ่งเป็นจุลินทรีย์ตัวดีที่สามารถลดปัญหาดังกล่าวได้อย่างธรรมชาติ กลุ่มอาหารที่มีโพรไบโอติก เช่น โยเกิร์ต นมเปรี้ยว กิมจิ มิโซะ ถั่วหมัก เป็นต้น
โยเกิร์ตลดกลิ่นปากได้จริงไหม ทำไมจึงช่วยได้?
วิธีลดกลิ่นปากอย่างได้ผลวิธีหนึ่งก็คือการรับประทานโยเกิร์ตนั่นเอง เพราะมีงานวิจัยออกมาว่าการรับประทานโยเกิร์ตประมาณวันละ 90 มิลลิลิตร โดยแบ่งรับประทานวันละ 2 ครั้ง นาน 6 สัปดาห์ มีประโยชน์ต่อการลดกลิ่นปากที่เกิดจากการสะสมของสารที่ทำให้เกิดกลิ่นในปาก เช่น ไฮโดรเจน ซัลไฟด์ โดยคาดว่าผลลัพธ์ดังกล่าวมีสาเหตุมาจากแบคทีเรียที่มีชีวิตในโยเกิร์ต โดยเฉพาะแบคทีเรียสเตปค็อกคัส เธอร์โมฟิลัสและแลคโตบาซิลลัสบัลการิคัส ที่อาจมีคุณสมบัติช่วยลดกลิ่นปากจากการสะสมของแบคทีเรียในปากได้
ไม่เพียงเท่านี้ ผู้วิจัยยังพบว่าเหล่าอาสาสมัครที่รับประทานโยเกิร์ตต่างมีระดับคราบจุลินทรีย์สะสมและการอักเสบของเหงือกที่ลดน้อยลงอย่างน่าจะมีความสัมพันธ์กัน ซึ่งถึงแม้การศึกษาดังกล่าวจะยังมีผู้เข้าร่วมทดลองจำนวนน้อยและต้องมีการทดลองเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผล แต่การเพิ่มโยเกิร์ตเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่รับประทานก็อาจเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับขจัดกลิ่นปากที่ง่ายและปลอดภัย น่าลองทำตาม
โพรไบโอติก ลดกลิ่นปาก หาได้จากอาหารประเภทไหนบ้าง
จากงานวิจัยพบว่าการใช้โปรไบโอติกในการรักษากลิ่นปากนั้นมีส่วนช่วยลดการเกิดกลิ่นปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ไม่สามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่นปากได้ทุกชนิด แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นถือว่าน่าพึงพอใจเป็นอย่างมาก
โดยอาหารที่มีโพรไบโอติกสูง เช่น
– นมเปรี้ยว, โยเกิร์ตโพรไบโอติกส์
– อาหารหมักดอง อย่างกิมจิ มิโซะ เต้าเจี้ยวญี่ปุ่น และแตงกวาดอง
– น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล (Apple-cider vinegar)
– ชีสบางชนิด เช่น คอทเทจชีส พาร์มีซานชีส
– ดาร์กช็อกโกแลต
– คอมบูฉะ (Kombucha)
อย่างไรก็ดี แม้ว่าโพรไบโอติกจะมีประโยชน์ แต่แนะนำว่าให้ทานอย่างพอดี เพราะอาหารบางประเภท เช่น นมเปรี้ยว ถือเป็นเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลค่อนข้างสูง ดื่มแค่วันละขวดก็เพียงพอต่อการเพิ่มโพรไบโอติกในร่างกายแล้วเช่นกัน
โยเกิร์ตออแกร์นิคจาก Butterfly
โยเกิร์ตของ Butterfly นอกจากจะช่วยลดกลิ่นปากและช่วยบรรเทาปัญหาช่องปากอื่น ๆ ได้แล้ว ยังเป็นออร์แกนิคที่ได้ชื่อว่าไร้สารเจือปนและปลอดภัยกับผู้บริโภคอีกด้วย เพราะไม่ใช่แค่วัวที่เลี้ยงแบบกินหญ้า Grass Fed เท่านั้น แต่เป็นวัวที่กินหญ้าออร์แกนิค 100% (certified organic) ไม่มีการใช้ยาปฏิชีวนะ หรือสารเคมีใด ๆ ทั้งกับตัววัวและพื้นที่ในฟาร์ม เราปล่อยวัวให้เดินเล่นในทุ่งกว้าง ไม่มีการกักขัง เพื่อให้วัวของเราได้มีสุขภาพแข็งแรง อารมณ์ดี เพื่อให้ผลผลิตดีตามไปด้วย จนเราได้รับการปิดฉลากจากมาตรฐานออร์แกนิค USDA (NOP) องค์กรที่ดูแลผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจากประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยออร์แกนิคโยเกิร์ตชนิดคงตัวของเรานั้นมีคุณสมบัติที่ดีหลายประการไม่ว่าจะเป็น…
– ผลิตจากนมออร์แกนิคเต็มมันเนย เข้มข้น หอมมัน และหวานเบา ๆ แบบปราศจากเคมีด้วยน้ำตาลทรายออร์แกนิค
– มีจุลินทรีย์โพรไบโอติก (Probiotic) และจุลินทรีย์มีชีวิต (Live Yogurt Cultures)
– เชื้อจุลินทรีย์ที่ใช้ประกอบด้วย : Lactobacillusrhamnosus, Lactobacillus delbrueckii subsp. bulgaricus, Streptococcus thermophilus
– ไม่มีการปรุงแต่งด้วยสารเคมีต่าง ๆ เช่น สารเพิ่มความหนืด, สารเพิ่มความคงตัว ฯลฯ
– ไม่มีการผสมนมผง หรือแต่งกลิ่นสังเคราะห์ใด ๆ จึงเข้มข้น หอมมัน จากรสชาติของโยเกิร์ตจริง ๆ
ดังนั้นผู้บริโภคจึงสามารถมั่นใจว่าโยเกิร์ตของเรา สามารถช่วยลดปัญหากลิ่นปากได้จริง มีความปลอดภัย และไร้สารเจือปนส่งตรงมาจากฟาร์มอย่างแน่นอนสำหรับผู้ที่สนใจสั่งสินค้าและดูสินค้าเพิ่มเติมสามารถติดตามผ่านไลน์ได้ที่นี่ (คลิก)
คำถามที่พบบ่อย
ผู้บริโภคควรลองเปลี่ยนพฤติกรรมการกินดู ซึ่งอาจเริ่มต้นจากการลดการรับประทานอาหารที่มีกลิ่นแรง หรือรับประทานที่มีโพรไบโอติกมากขึ้นเพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการลดกลิ่นปากร่วมกับการแปรงฟันและการดื่มน้ำให้มาก ๆ ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน
สามารถแบ่งออกได้หลายวิธีด้วยกัน โดยเริ่มต้นจากการปรับพฤติกรรมบางอย่างก่อน เช่น
– อย่าปล่อยให้ปากแห้ง เพราะเมื่อปากแห้งความเข้มข้นของแบคทีเรียในปากจะเพิ่มมาก ทำให้เกิดกลิ่นปากได้ง่าย
– ดื่มน้ำมาก ๆ ช่วยล้างแบคทีเรียออกจากน้ำลาย
– แปรงฟันทุกครั้งหลังอาหาร และอย่างลืมแปรงด้านบนของลิ้น อันเป็นที่เกิดของแบคทีเรียด้วย
– ใช้ไหมขัดฟันวันละ 2-3 ครั้ง