butterfly organic
Search
Close this search box.

สารต้านอนุมูลอิสระ จำเป็นต่อร่างกายแค่ไหน หาได้จากอาหารประเภทใดบ้าง

Picture of Butterfly Organic

Butterfly Organic

สารต้านอนุมูลอิสระ ถือเป็นสารสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับร่างกายของเรา เนื่องจากโดยทั่วไปร่างกายของเราสามารถเสียสมดุลและเสียหายได้จาก “อนุมูลอิสระ” นั่นจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่เราต้องรับประทานอาหารที่มีสารคอยต้านเจ้า อนุมูลอิสระ ตัวนี้นั่นเอง

ซึ่งหนึ่งในอาหารดังกล่าวที่หลาย ๆ คนอาจคิดไม่ถึงว่าสามารถต้านอนุมูลอิสระได้ดีก็คือ โยเกิร์ต เจ้านมหมักสีขาวที่มีภาพจำในการคอยช่วยลดน้ำหนักและขับถ่ายดี โดยในบทความนี้ Butterfly Organic จะมานำเสนอคุณประโยชน์ด้านนี้ของโยเกิร์ตให้ผู้อ่านทุกคนได้ทราบกัน แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จัก อนุมูลอิสระ และ สารต้านอนุมูลอิสระกันก่อนว่ามันคืออะไรกันแน่ และมันส่งผลต่อร่างกายของเราอย่างไรบ้าง?

อนุมูลอิสระ คืออะไร ส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างไรบ้าง

อนุมูลอิสระ คือ โมเลกุลหรืออะตอมที่ไม่เสถียรเนื่องจากขาดอิเล็กตรอน ซึ่งโดยปกติในร่างกายของเรามีโมเลกุลหรืออะตอมที่มีอิเล็กตรอนอยู่เป็นจำนวนคู่ ในกรณีที่ร่างกายมีการสูญเสียอิเล็กตรอนจากการถูกอนุมูลอิสระแย่งจับ จะทำให้โมเลกุลของเซลล์ในร่างกายไม่เสถียร ขาดความสมดุล ซึ่งส่งผลทำให้เซลล์ร่างกายเสียหายได้

 ทั้งนี้อนุมูลอิสระเข้าไปทำลายเซลล์ เมื่อร่างกายไม่สามารถผลิตหรือได้รับสารต้านอนุมูลอิสระเพียงพอที่จะไปยับยั้งหรือไปจับอนุมูลอิสระได้ภายในเซลล์ของร่างกาย ผลคือทำให้เซลล์เกิดความเสียหายและนำไปสู่การเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง หัวใจและหลอดเลือด แก่ก่อนวัย ต้อกระจก และโรคอื่น ๆ ได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม เพื่อยับยั้งความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับร่างกาย สิ่งที่เราต้องทำคือการ input สารต้านอนุมูลอิสระเข้าไปให้ได้มากที่สุด เพราะหากเราได้รับสารต้านอนุมูลอิสระเพียงพอ สารต้านอนุมูลอิสระเข้าไปป้องกันหรือแย่งที่จับกับอนุมูลอิสระ และนำอนุมูลอิสระเหล่านั้นไปทิ้งนอกเซลล์ ทำให้เซลล์ไม่ถูกทำลายนั่นเอง แล้วสารต้านอนุมูลอิสระคืออะไร มีหลักการทำงานในการคอยต้านอนุมูลอิสระอย่างไร มาติดตามไปพร้อม ๆ กัน

สารต้านอนุมูลอิสระ คืออะไร

สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) คือ สารประกอบที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ (Free radicals) ที่ร่างกายสร้างขึ้นมา เพื่อไม่ให้อนุมูลอิสระนี้สร้างความเสียหายให้กับเซลล์ หรือทำลายระบบภูมิคุ้มกันนั่นเอง

สารต้านอนุมูลอิสระ มีกี่ประเภท

“antioxidant” สามารถแบ่งตามกลไกการยับยั้งได้เป็น 3 ประเภท คือ

– Preventive antioxidant ป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ

– Scavenging antioxidant ทำลายหรือยับยั้งอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้น

– Chain breaking antioxidant ทำให้ลูกโซ่ของการเกิดอนุมูลอิสระสิ้นสุดลง หรือการช่วยชะลอการเกิด “ออกซิเดชั่น” ซึ่งเป็นตัวทำให้เราแก่เร็ว ริ้วรอยมากขึ้น และเจ็บป่วยได้ง่าย

อย่างไรก็ดี สิ่งที่สำคัญ คือ ร่างกายของเราสร้าง อนุมูลอิสระนี้ตลอดเวลา เซลล์ต่าง ๆ จะเสื่อมลงเรื่อย ๆแบบไม่มีวันหยุด เราจึงแก่ลงทุกวัน ร่างกายก็จะเสื่อมสภาพถดถอยลง ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องมีกลไกในการควบคุมสารนี้ เพื่อให้ลุกลามได้ช้าลง ทำร้ายร่างกายของเราช้าลงนั่นเอง

สารต้านอนุมูลอิสระ มีอะไรบ้าง

สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) มีมากมาย ตัวอย่างเช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี แอสตาแซนธิน กรดแอลฟาไลโปอิก เบตาแคโรทีน ลูทีน ไลโคปีน ซีลีเนียม และโอเมก้า-3

โดยสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ จะช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และเม็ดเลือดขาว ให้ต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอมได้ดียิ่งขึ้น และที่สำคัญ คือ ช่วยทำลายอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นจากปัจจัยต่าง ๆ ซึ่งจะส่งผลช่วยชะลอการแก่ชรา ลดอาการอัลไซเมอร์ ลดระดับคอเลสเตอรอล ป้องกันเส้นเลือดในสมองตีบ ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง และช่วยเป็นเกราะป้องกันมลพิษให้กับร่างกาย

สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยอะไร

ผู้อ่านหลาย ๆ คนคงเห็นแล้วว่าอนุมูลอิสระนั้นส่งผลเสียต่อร่างกายเราอย่างมากมาย แต่ก็เป็นข้อดีที่ว่าสารต้านอนุมูลอิสระก็มีประโยชน์ที่มากมายไม่แพ้กัน เช่น

1. ชะลอกระบวนการแก่ชรา

2. ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง

3. ลดภาวะอาการอัลไซเมอร์

4. ลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย

5. ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ

6. ช่วยป้องกันโรคเส้นเลือดในสมองตีบ

7. ช่วยเป็นเกราะในการป้องกันมลพิษต่าง ๆ จากสิ่งแวดล้อม

ซึ่งคุณประโยชน์ดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของสารต้านอนุมูลอิสระเท่านั้น ทั้งนี้ข้อดีดังกล่าวจะถูกนำมาใช้ได้มากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับการรับประทานของแต่ละคนด้วย

สารต้านอนุมูลอิสระ อาหารชนิดไหนมีมากที่สุด?

สำหรับอาหารที่มีสารอาหารที่คอยช่วยต้านอนุมูลอิสระนั้นมีอยู่มากมายเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น

ผัก ผลไม้สีเหลือง และสีส้ม

เช่น แครอท ฟักทอง มะละกอ มะม่วงสุก แหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ ‘วิตามินเอ’ และ ‘เบตาแคโรทีน’

ผักใบเขียว

เช่น ผักคะน้า ผักปวยเล้ง ถั่วลันเตา บร็อคโคลี่ แหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ ‘ลูทีน’

ผัก ผลไม้สีแดง

เช่น มะเขือเทศ แตงโม พริกหวาน เกรปฟรุต ฟักข้าว แหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ ‘ไลโคปีน’

เนื้อแดง ทูน่า ไข่ ตับ และผักโขม

ซึ่งเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ ‘ซีลีเนียม’ 

ถั่ว เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง ขนมปังโฮลวีท 

จมูกข้าวสาลี ซีเรียลแบบโฮลเกรน อะโวคาโด รวมถึงผลไม้อื่น ๆ และเนื้อสัตว์ ซึ่งเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ ‘วิตามินอี’

โยเกิร์ตหรืออาหารที่มีโพรไบโอติก

เนื่องจากโยเกิร์ตนั้นมีจุลินทรีย์ตัวดีนั่นคือ โพรไบโอติก โยเกิร์ตโพรไบโอติก ทำหน้าที่ช่วยสร้างแอนติบอดี้ที่จำเป็นต่อการป้องกันไวรัสและแบคทีเรียที่เข้าจู่โจม ต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ ไปจนถึงรักษาสมดุลในลำไส้ก็เป็นการเสริมภูมิคุ้มกันอีกวิธีหนึ่งเช่นกัน

สารต้านอนุมูลอิสระในโยเกิร์ตมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไรบ้าง

เนื่องจากว่ากว่า 70% ของภูมิคุ้มกันร่างกายของเรานั้นจะอยู่บริเวณลำไส้ ซึ่งหากในลำไส้คนเราจะมีจุลินทรีย์ชนิดดีอย่างโพรไบโอติกที่มีอยู่ในโยเกิร์ตในปริมาณที่เหมาะสม มันก็จะสามารถทำหน้าที่ย่อยและดูดซึมสารอาหารช่วยป้องกันการเกิดโรคและรักษาภาวะที่ผิดปกติของร่างกายได้ 

ทั้งนี้การสร้างสมดุลของโพรไบโอติกในลำไส้เราก็สามารถส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง และยังมีส่วนช่วยให้ร่างกายผลิตสารไซโตไคน์ สารกลุ่มโปรตีนที่ร่างกายผลิตเพื่อต่อสู้และกำจัดกับสิ่งผิดปกติที่เข้ามาในร่างกายอย่างเชื้อไวรัสต่างๆ อาหารที่มีโพรไบโอติกหรือจุลินทรีย์ตัวดีที่ร่างกายต้องการ ที่สารมารถกินได้ทุกวันในปริมาณที่เหมาะสมนอกเหนือจากโยเกิร์ต ก็คือ นมเปรี้ยว กิมจิ หรือแอปเปิ้ลไซเดอร์ก็ได้เช่นกัน

โยเกิร์ตออแกร์นิคจาก Butterfly Organic

โยเกิร์ตออร์แกนิคของเรา ไม่ใช่แค่วัวที่เลี้ยงแบบกินหญ้า Grass Fed เท่านั้น แต่เป็นวัวที่กินหญ้าออร์แกนิค 100% (certified organic) ไม่มีการใช้ยาปฏิชีวนะ หรือสารเคมีใด ๆ ทั้งกับตัววัวและพื้นที่ในฟาร์ม เราปล่อยวัวให้เดินเล่นในทุ่งกว้าง ไม่มีการกักขัง เพื่อให้วัวของเราได้มีสุขภาพแข็งแรง อารมณ์ดี เพื่อให้ผลผลิตดีตามไปด้วย จนเราได้รับการปิดฉลากจากมาตรฐานออร์แกนิค USDA (NOP) องค์กรที่ดูแลผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจากประเทศสหรัฐอเมริกา

โดยออร์แกนิคโยเกิร์ต ชนิดคงตัวของเรานั้นมีคุณสมบัติที่ดีหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น…

– ผลิตจากนมออร์แกนิคเต็มมันเนย เข้มข้น หอมมัน และหวานเบา ๆ แบบปราศจากเคมีด้วยน้ำตาลทรายออร์แกนิค

– มีจุลินทรีย์โพรไบโอติก (Probiotic) และจุลินทรีย์มีชีวิต (Live Yogurt Cultures)

– เชื้อจุลินทรีย์ที่ใช้ประกอบด้วย : Lactobacillus rhamnosus, Lactobacillus delbrueckii subsp. bulgaricus, Streptococcus thermophilus

– ไม่มีการปรุงแต่งด้วยสารเคมีต่าง ๆ เช่น สารเพิ่มความหนืด, สารเพิ่มความคงตัว ฯลฯ

– ไม่มีการผสมนมผง หรือแต่งกลิ่นสังเคราะห์ใด ๆ จึงเข้มข้น หอมมัน จากรสชาติของโยเกิร์ตจริง ๆ

อย่างไรก็ดี เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าโยเกิร์ตของเราปลอดภัย ไร้สารเจือปน ส่งตรงมาจากฟาร์มอย่างแน่นอน สำหรับผู้ที่สนใจสั่งสินค้าและดูสินค้าเพิ่มเติม สามารถติดตามผ่านไลน์ได้ที่นี่ (คลิก)

คำถามที่พบบ่อย

สารต้านอนุมูลอิสระ อันตรายไหม

แม้ว่าสารต้านอนุมูลอิสระนั้นจะมีคุณประโยชน์หลายอย่าง แต่หากร่างกายได้รับสารนี้มากเกินไปก็อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการผิดปกติได้ เช่น การได้รับเบต้าแคโรทีนปริมาณมากในผู้ที่สูบบุหรี่อาจทำให้เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอดสูงขึ้น และการได้รับวิตามินอีปริมาณมากอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากและโรคหลอดเลือดสมอง ดังนั้น ควรบริโภคให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม

วัยใดเป็นวัยที่ต้องการสารต้านอนุมูลอิสระมากที่สุด

สารต้านอนุมูลอิสระสามารถลดความเสี่ยงต่อโรคหลายโรคโดยเฉพาะโรคเรื้อรังที่สัมพันธ์  โดยเฉพาะโรคเรื้อรังซึ่งเป็นผลลัพธ์สะสมที่เกิดจากเซลล์และเนื้อเยื่อในร่างกายถูกทำอันตราย และเสียหายโดยมากใช้เวลาเป็นสิบปี เห็นได้จากการรวบรวมความชุกของโรคว่า โรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นมากในผู้ใหญ่วัยกลางคนหรือผู้สูงอายุ ดังนั้น บุคคลทุกเพศทุกวัยจึงควรได้รับสารต้านอนุมูลอิสระให้พอเพียงต่อความต้องการในแต่ละวัน เพื่อให้เกิดความสมดุลในร่างกายระหว่างสารต้านอนุมูลอิสระและอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้น

บทความล่าสุด

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า