สารบัญบทความ
Toggleในช่วงนี้กระแสของการตามหาโพรไบโอติกมาเติมประโยชน์ให้กับร่างกายเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งแน่นอนว่านี่คือหนึ่งในสิ่งที่มีประโยชน์กับร่างกาย แต่หลายคนอาจยังไม่แน่ใจว่าจริง ๆ แล้ว โพรไบโอติก คืออะไร ควรที่จะเลือกกินแบบไหนถึงจะสามารถให้ประโยชน์ และคุณค่ากับร่างกายได้เต็มที่ เรามาเจาะลึกในเรื่องประโยชน์ของเจ้าจุลินทรีย์ดีตัวนี้ตัวนี้ไปพร้อมกันดีกว่า
มารู้จักว่าโพรไบโอติกคืออะไร มีประโยชน์แบบไหนให้ชัดเจนกัน
การเลือกเติมสิ่งดี ๆ ให้กับร่างกายในยุคนี้มั่นใจว่าจะต้องมีชื่อของจุลินทรีย์อย่าง โพรไบโอติก จุลินทรีย์ทางเลือกเพื่อสุขภาพเข้ามาให้รายการของคุณอย่างแน่นอน แต่ก่อนที่จะเลือกอะไรให้กับร่างกาย การได้รู้ก่อนว่าจริง ๆ แล้วโพรไบโอติก คืออะไรกันแน่มีความสำคัญมากที่สุด
โดยโพรไบโอติก คือ จุลินทรีย์ขนาดเล็ก ซึ่งเป็นชนิดดี ช่วยดูแลระบบทางเดินอาหาร ช่วยย่อย สังเคราะห์วิตามิน ปกป้องร่างกายจากจุลินทรีย์ก่อโรค ช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงนั่นเอง แต่ยังมีประโยชน์ที่น่าสนใจของจุลินทรีย์ดีตัวนี้อีกหลากหลาย ซึ่งเรารวมมาไว้ให้คุณที่นี่แล้ว
โพรไบโอติก คือตัวช่วยรักษาสมดุลร่างกาย
ในทุกวันร่างกายต้องเจอกับทั้งกรดและด่างที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ แต่การมีโพรไบโอติกนั้นจะเข้ามาช่วยสร้างสมดุลให้กับร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทุกคนควรได้รับจุลินทรีย์ตัวนี้ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อช่วยเพิ่มสมดุลให้กับร่างกาย แต่สำหรับโพรไบโอติกกับไตนั้นอาจต้องการโพรไบโอติกที่คัดแยกมาเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้ส่งผลเสียกับไต แต่ไม่ว่าอย่างไรคนมีภาวะไตก็ยังต้องการโพรไบโอติกเช่นกัน
โพรไบโอติก คือตัวกระตุ้นการสร้างเอนไซม์
เอนไซม์ที่เกิดขึ้นจากโพรไบโอติกนั้นจะช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น เอนไซม์ไลเปส ( Lipase ) ที่ช่วยในการย่อยไขมัน และเอนไซม์โปติเอส ( Proteases ) ช่วยในการย่อยโปรตีน จึงทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารเหล่านี้ได้มากขึ้น
โพรไบโอติก คือตัวช่วยในการลดน้ำหนัก
โพรไบโอติกกับการลดน้ําหนักเป็นเหมือนกระบวนการที่ส่งเสริมกัน เพราะจุลินทรีย์ตัวนี้จะเข้าไปช่วยยับยั้งการดูดซึมของไขมันจากอาหาร และทำการเพิ่มการขับไขมันออกทางอุจจาระได้ดีขึ้น แถมยังช่วยกระตุ้นฮอร์โมนในการสลายไขมัน และลดการสะสมของไขมันในร่างกายได้อีกด้วย
โพรไบโอติก คือตัวช่วยการทำงานของระบบสมอง
คุณอาจเคยได้ยินว่าลำไส้คือสมองที่สองของร่างกาย และถ้าคุณเติมความสมดุลให้ระบบย่อยและลำไส้ด้วยโพรไบโอติกนั่นก็หมายความว่าคุณได้เติมสิ่งดี ๆ ให้กับสมองไปพร้อมกัน เพราะจุลินทรีย์ดีในลำไส้นั้นจะส่งผลต่อการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งส่งผลต่อการทำงานในภาพรวมของสมอง ที่มักใช้ตอบสนองกับความเครียด ความกังวล จัดการกับอารมณ์ และการรับรู้ ดังนั้นลำไส้ดี สมองก็จะดีไปด้วยนั่นเอง
โพรไบโอติก คือตัวช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน
ถือว่าขาดประโยชน์ข้อนี้ไปไม่ได้เลย เพราะโพรไบโอติกมีส่วนสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับร่างกาย เพราะช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันแบบเมือกในระบบทางเดินอาหารนั่นเอง โดยตัวนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อโรคหลุดจากทางเดินอาหารเข้าสู่ร่างกาย ช่วยปรับค่า pH และสร้างกรดอะซิติกและกรดแลคติก ซึ่งมีส่วนช่วยกันแบคทีเรียก่อโรคหลายชนิด
การเลือกกินโพรไบโอติก กินตอนไหนดีที่สุด
หลังจากได้รู้กันชัดเจนแล้วว่าโพรไบโอติก คืออะไร และมีประโยชน์แบบไหนบ้าง ซึ่งหลายคนอาจยังสงสัยว่าหลัก ๆ แล้วโพรไบโอติก มีอยู่ในอาหารอะไรบ้าง สิ่งที่พบเจอได้ง่ายที่สุดก็คือ โยเกิร์ต น้ำเปรี้ยว กิมจิ น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล เป็นต้น แต่ถ้าสงสัยว่ากินโพรไบโอติกตอนไหนดีกับร่างกายมากที่สุด เรามาหาคำตอบไปพร้อมกันดีกว่า
ก่อนมื้ออาหาร
ไม่ว่าคุณจะเลือกโพรไบโอติก ยี่ห้อไหนดี เวลาที่ทุกคนนิยมกินโพรไบโอติกเข้าไปมากที่สุดก็คือ ช่วงก่อนมื้ออาหารประมาณ 20-30 นาทีนั่นเอง เพื่อให้จุลินทรีย์ได้เดินทางไปยังลำไส้ และได้ใช้เพื่อการย่อยอาหาร
ก่อนนอน
การเลือกกินโพรไบโอติกก่อนอนประมาณ 2 ชั่วโมง มีส่วนช่วยให้คุณนอนหลับได้สบายมากขึ้น เพราะจะเข้าไปช่วยผ่อนคลายประสาท และสมอง
ตอนท้องว่าง
คุณสามารถเลือกกินโพรไบโอติกเข้าไปช่วงท้องว่าง หรือหลังอาหารอย่างน้อย 2 ชั่วโมงได้ เพราะจะช่วยลดโอกาสที่จะเจอกรดในกระเพาะอาหารในปริมาณเยอะเกินไปได้ดีกว่า
หมายเหตุ : ไม่ว่าจะเลือกกินโพรไบโอติกเวลาไหน สิ่งที่สำคัญกว่าคือคุณควรเติมจุลินทรีย์ตัวนี้เข้าไปในเวลาเดิม ๆ ทุกวัน อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ร่างกายได้ประโยชน์สูงสุดนั่นเอง
รู้กันแล้วว่าโพรไบโอติก คืออะไร ส่วนพรีไบโอติกสำคัญไหมมาดูกัน
หลังจากที่คุณได้รู้ว่าโพรไบโอติก คืออะไร เชื่อว่าทุกคนต้องได้ยินคำว่า ‘พรีไบโอติก’ ตามมาแน่นอน ซึ่งจุลินทรีย์ตัวนี้คืออะไร สำคัญมากน้อยแค่ไหน เรามาทำความรู้จักเพิ่มเติม เพื่อหาประโยชน์จากจุลินทรีย์ที่ดีที่สุดเหล่านี้ไปด้วยกันดีกว่า
- พรีไบโอติกกับโพรไบโอติกแตกต่างกัน แต่เป็นของคู่กันเสมอ
- พรีไบโอติกนั้นร่างกายเราไม่สามารถย่อยและดูดซึมได้ แต่จะถูกทำให้กลายเป็นโพรไบโอติกแทน
- พรีไบโอติกช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของโพรไบโอติก หรือจะเรียกว่าเป็นอาหารของโพรไบโอติกก็ได้
- พรีไบโอติกช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง ช่วยเผาพลาญ และต้านโรคบางชนิดได้
- พรีไบโอติกมักเจอในผัก ผลไม้ และธัญพืชบางชนิด
ตามหาโพรไบโอติกคุณภาพได้ง่าย ๆ และหลากหลายที่ Butterfly
วันนี้เห็นกันไปเรียบร้อยแล้วว่าจุลินทรีย์ตัวดีอย่างเจ้าโพรไบโอติกนั้นมีความสำคัญ และเป็นประโยชน์กับร่างกายของพวกเรามากแค่ไหน ดังนั้นถึงเวลามาเติมสิ่งดี ๆ ให้กับร่างกายด้วยโยเกิร์ตจาก Butterfly กันแล้ว ซึ่งบอกเลยว่านอกจากจะอัดแน่นไปด้วยโพรไบโอติกจากธรรมชาติแล้ว โยเกิร์ตพร้อมทั้งผลิตภัณฑ์นมของทางฟาร์มทุกตัวยังผ่านขั้นตอนการผลิตแบบออร์แกนิค 100% มีมาตรฐานระดับโลกอย่าง USDA มาเพิ่มความมั่นใจให้กับการบริโภคของคุณกันอีกด้วย
หากต้องการสั่งซื้อสินค้า และการจัดส่ง คุณสามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ 034 110 496 (สำนักงานใหญ่) หรือที่ LINE : @butterflyorganic กันได้เลย
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ช่วยดูแลสุขภาพได้หลากหลายด้าน แต่สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือ มีส่วนช่วยในการเพิ่มความสมดุลให้กับระบบย่อยอาหารและลำไส้
สามารถกินเวลาไหนก็ได้ แต่ต้องเลือกกินตอนท้องว่างเพื่อการดูดซึมที่มีประสิทธิภาพ และพยายามกินเวลานั้นเป็นประจำ
เหมาะกับทุกคน เพราะเป็นจุลินทรีย์ดีที่มีผลดีกับร่างกายของทุกคน ยกเว้นสำหรับคนที่มีโรคประจำตัวต่าง ๆ แนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์ก่อนกินทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย
สำหรับโพรไบโอติกนั้นจะช่วยเรื่องของการตกขาวและกลิ่นของผู้หญิงได้ดี เนื่องจากมีจุลิทรีย์ที่ช่วยกำจัดแบคทีเรียที่ไม่ดีให้หายไปได้